นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.ฯ) พร้อมด้วย นพ.อลงกต มณีกาศ นายชูกัน กุลวงษา รองนายก อบจ.ฯ นายอารมณ์ เวียงด้าน อดีต สว.นครพนม นายรักสกุล สุริโย ส.อบจ.เขต 2 โพนสวรรค์ นางสาวกัญณฐา อภินันท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม นายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต พร้อมด้วยคณะนายศุภชัย โพธิ์สุ รองหรือครูแก้วประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย ร่วมมือกับกลุ่มนครพนมร่วมใจ และภาคเอกชนนำโดยนายพีระพล ลิขิตสุวรรณ หรือเฮียฮง ลงพื้นที่ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดหวานในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม บริเวณวิสาหกิจชุมชนสับปะรดแปลงใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงเรียนบ้านนาใน ต.นาใน อ.โพนสวรรค์ โดยมีนายแสงเทียน มะอินทร์ ประธานผู้ปลูกสับปะรดหวาน พืช GI โพนสวรรค์ พร้อมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดหวาน นำสินค้าเลื่องชื่อประจำถิ่นมาจำหน่ายแก่คณะผู้บริหาร อบจ.นครพนม จำนวน 8 ตัน
ครูแก้ว ได้เปิดเผยแก่กลุ่มเกษตรกรว่า หลังทราบข่าวราคาสับปะรดหวานมีราคาตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้สินค้าล้นตลาด ตนก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงหารือกับทีมผู้บริหาร อบจ.นครพนม และภาคเอกชนหาทางช่วยเหลือ ได้ผลสรุปว่าน้องขวัญนายก อบจ.นครพนม ควักเงินส่วนตัวจำนวน 100,000 บาท ผมก็ควักสมทบอีก 100,000 บาท เฮียฮงตัวแทนภาคเอกชนเห็นดีด้วยควักช่วยเพิ่ม 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 400,000 บาท ตั้งเป็นกองทุนกลุ่มนครพนมร่วมใจ โดยเงินจำนวนนี้เหมือนสารตั้งต้นเพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือสินค้าทางการเกษตรที่มีราคาตกต่ำ แต่ไม่ได้สูญเปล่าเพราะให้ ส.อบจ.นครพนมทั้ง 30 เขต ซื้อในราคาหน้าสวนคือกิโลกรัมละ 8 บาท แล้วนำไปจำหน่ายในพื้นที่ของตน ทุกคนยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดหวานคนละ 1-2 ตัน เงินจำนวนดังกล่าวก็ยังอยู่คงเดิม เพื่อไว้ใช้กับเกษตรกรรายอื่นต่อไป
ด้าน น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ เปิดเผยว่า มติคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลผลิตทางด้านเกษตรตกต่ำ(บอร์ดหมากนัด) ได้ระดมทุนจากทุกภาคส่วนตั้งเป็นกองทุนไว้ช่วยแทรกแซงด้านราคาและช่วยระบายสินค้าออกสู่ท้องตลาด จนกว่าผลผลิตและราคาจะเข้าสู่ภาวะปกติ เบื้องต้นทางกลุ่มนครพนมร่วมใจ ได้สั่งซื้อสัปปะรดจากเกษตรกรโดยตรง จำนวน 15 ตัน เป็น 120,000 บาท จากแหล่งผู้ปลูกสับปะรด 2 แห่งได้แก่วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ อ.โพนสวรรค์ จำนวน 8 ตัน และ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกสับปะรด อ.ท่าอุเทน จำนวน 7 ตัน รวมทั้งสิ้น 15 ตัน และจะทำการปล่อยขบวนรถขนสินค้าออกสู่ท้องตลาด โดยหลังจากเสร็จภารกิจที่ อบจ.ฯแล้ว ตนก็จะสวมบทแม่ค้านำสับปะรดไปเร่ขายกับประชานในราคาต้นทุนคือกิโลกรัมละ 8 บาท จึงขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม สนับสนุนสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเราด้วย
ขณะที่นายแสงเทียน มะอินทร์ ประธานผู้ปลูกสับปะรด อ.โพนสวรรค์ กล่าวว่าในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ มีเกษตรกรปลูกสับปะรดหวานจำนวน 1,850 ไร่ ผลผลิตไร่ละ 6 ตัน ปีหนึ่งจะมีผลผลิตรวมประมาณ 11,100 ตันปีที่ผ่านมาราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 25 บาท ปีนี้จากสถานการณ์โควิดเศรษฐกิจจึงชะงัก ราคาหน้าสวนตกลงมาที่กิโลกรัมละ 5-7 บาท จึงต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหาร อบจ.นครพนม และครูแก้วที่ยื่นมือมารับซื้อ ซึ่งสับปะรดหวานชุดนี้เป็นเกรด A รสชาติหวานฉ่ำเป็นของฝากก็ถูกใจผู้รับแน่นอน
จากนั้นคณะผู้บริหารก็เดินทางไปที่วัดโนนสะอาด บ้านกุดกุ่มน้อย หมู่ 4 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน ที่ตั้งเป็นศูนย์รวบรวมผลผลิตของบ้านกุดกุ่มน้อย มีนายสุขสันต์ พรรณวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสับปะรด อ.ท่าอุเทน/ประธานสับปะรดหวานจังหวัดนครพนม และเกษตรกรรอต้อนรับ
สับปะรดหวานอำเภอท่าอุเทน และอำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม ได้ชื่อว่าเป็นสับปะรดหวานที่สุดในประเทศไทย เป็นชนิดพันธุ์ปัตตาเวียสายน้ำผึ้ง ซึ่งได้มีการนําต้นพันธุ์มาปลูกจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้นตระกูลนั้นเดิมที่มีรสเปรี้ยว เมื่อมาเจอกับสภาพอากาศและสภาพดินในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน และ อ.โพนสวรรค์ ทำให้สับปะรดกลายพันธุ์จนมีรสชาติที่หวานฉ่ำ กลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ตาตื้น จนได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (พืช GI) ของจังหวัดนครพนม ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและมีคุณภาพอีกหนึ่งชนิด ปัจจุบันจังหวัดนครพนม มีพื้นที่ปลูกสับปะรด จำนวน 5,500 ไร่