ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลอรัญญิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 และเพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 รวมถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบันมาตรา 48 ทศ. ซึ่งกำหนดให้นายกเทศมนตรีตำบลอรัญญิก แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลฯก่อนเข้ารับหน้าที่ เป็นแนวทางการบริหารงานต่อสภาเทศบาลฯและจะใช้เป็นแนวทางการบริหารพัฒนาเทศบาลฯตลอดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลอรัญญิก ตำบลท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดประชุมสมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2564 โดยมีนายไพโรจน์ พจน์ด้วง นายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลอรัญญิก พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ประธานสภา เลขาประธานสภาฯและสมาชิกสภาได้เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของทางนายกเทศมนตรี
โดยนายไพโรจน์ พจน์ด้วง นายกเทศมนตรีได้กล่าวว่าในการแถลงนโยบายต่อสภาในวันนี้ได้จัดให้มีการถ่ายทอดสดทางเสียงตามสายทุกชุมชนในเขตเทศบาลตำบลอรัญญิกด้วยก็เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องและประชาชนทั่วไปได้รับฟังนโยบายกันอย่างทั่วถึง เพื่อให้ติดตามและตรวจสอบในการทำงานของทางเทศบาลฯในโอกาสต่อไป ซึ่งกระผมได้กำหนดนโยบายไว้ 7 ด้านดังนี้
1.นโยบายด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการพัฒนาการดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมที่ตนอยู่ได้ โดยการปรับปรุงและส่งเสริมให้มีมาตรการการป้องกันและขจัดโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆทั้งควบคุมการปฏิบัติการด้านสาธารณสุขที่สามารถควบคุมได้ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมกลุ่มอาชีพและสินค้า OTOP ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายกองทุนหลักประกันสุขภาพของรัฐบาล(สปสช.)และกิจกรรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และสนับสนุนระบบการศึกษาปฐมวัย
2.นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดำเนินการให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประเภทสาธารณูปโภค สาธารณูปการ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตเทศบาลตำบลอรัญญิก ได้รับความสะดวก สบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3.นโยบายด้านเศรษฐกิจแลการท่องเที่ยว การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คือการจัดหารายได้ให้กับเทศบาลฯเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม ความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการรวมกลุ่มฝึกอาชีพและสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐาน และสืบสานความเป็นอัตลักษณ์ของอรัญญิก ด้วยการจัดกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ เช่นงานเปิดตำนานด้านการตีมีดและประเพณีการไหว้ครูบูชาเตาซึ่งนับวันอาจจะสูญหายได้
4.นโยบายด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการรณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ รักษาสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชน
5.นโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การเรียนรู้ สร้างเสริมสุขภาพของตนเองให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้มีพลังในการเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยได้อย่างมั่นใจ จัดฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน เพื่อเป็นกำลังสนับสนุนในการป้องกันสาธารณภัย การเกิดอัคคีภัย จัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อใช้ในการป้องกัน ขจัดปัญหาและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้ขบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชนควบคู่กับการสนับสนุนด้านบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ โดยยึดหลักการผู้เสพ คือผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา ส่วนผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามขบวนการยุติธรรม
6.นโยบายด้านการส่งเสริม ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมจารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยจัดให้มีการบำรุงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ฟื้นฟูและสืบสานคุณค่าความหลากหลายของศิลปะวัฒนธรรม ประเพณีไทย ที่เป็นวิถีชีวิต ค่านิยมที่ดีงาม เพื่อการศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าพื้นฐานภูมิปัญญาและความเป็นไทย สนับสนุนการท่องเที่ยวท้องถิ่น จัดกิจกรรมให้แพร่ในเด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไป
7.นโยบายด้านการเมืองและการบริหารจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ นับเป็นการกระบวนการที่สำคัญที่จะผลักดันให้การบริหารงานในด้านต่างๆของทางเทศบาลอรัญญิก ประสบความสำเร็จ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งต้องส่งเสริมและปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ มีส่วนร่วมในทางการเมือง และการบริหารในฐานะพลเมืองที่ร่วมคิด ร่วมพัฒนา ร่วมแก้ไขปัญหาในระบอบประชาธิปไตย และจัดระบบบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติ และการบริการประชาชน โดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหาจัดการที่เรียกว่า Good Governance
นายไพโรจน์ฯกล่าวอีกว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น คือนโยบายการบริหารงานของเทศบาลอรัญญิก ที่กระผมจะต้องนำนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ล้วนมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในชุมชนและภาคส่วนต่างๆที่จะต้องเข้ามาช่วยกันเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง