นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยอาการของโรคมือ เท้า ปาก เริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ
หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องดูแลและสังเกตอาการของบุตรหลานในช่วงที่อยู่บ้านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กเล็กอาจบอกอาการเจ็บป่วยของตนเองไม่ได้
สำหรับวิธีป้องกันคือ
1.ลดการสัมผัสเชื้อ ไม่นำมือที่สกปรกสัมผัสใบหน้า เพราะเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย มักจะติดอยู่บนมือแล้วนำเข้าปากหรือจับของเล่น ของใช้ ทำให้เชื้อกระจายสู่ผู้อื่นได้
2.ทำความสะอาดของใช้และของเล่นของเด็กเป็นประจำ และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
3.ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อลดเชื้อสะสมบนมือและลดการแพร่สู่ผู้อื่น
4.หากบุตรหลานป่วย ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ไม่พาเด็กป่วยไปในสถานที่แออัด แยกของใช้ส่วนตัวและไม่ให้คลุกคลีกับคนอื่นๆ
วิธีป้องกันโรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ทั้งโรคมือ เท้า ปาก โรคโควิด-19 และโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ด้วย