นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยว่า ตนได้เห็นความสำคัญของการให้บริการสาธารณะ จึงได้จัดทำโครงการห้องน้ำสุขสโมสร เพื่อให้บริการห้องน้ำสาธารณะตามท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการยกระดับท่าเรือโดยสารในด้านการอำนวยความสะดวกต่อประชาชน ซึ่งการออกแบบจะคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก อำนวยความสะดวก ทุกเพศ ทุกวัย และยังรองรับสังคมผู้สูงวัย ส่งเสริมสิทธิผู้พิการ ด้วยห้องน้ำแบบอารยสถาปัตย์Friendly Designตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกรูปแบบ
โดยได้รับความร่วมมือจากกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ในด้านพื้นที่ก่อสร้างห้องน้ำ และมูลนิธิเอสซีจี ร่วมให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ ซึ่งในปัจจุบันในแม่น้ำเจ้าพระยา มีท่าเรือให้บริการจำนวน 40 ท่าเรือ ได้ดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการจำนวน 8 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือสาทร ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ท่าเรือเทเวศร์ ท่าเรือสะพานพระราม 7 ท่าเรือนนทบุรี และท่าพระนั่งเกล้า
นอกจากนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือราชินี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเกียกกาย ท่าเรือบางโพ และท่าเรือพายัพ ซึ่งท่าเรือข้างต้นเป็นท่าเรือที่เป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ จึงเร่งดำเนินการก่อสร้างก่อน เพื่อรองรับการใช้งานและการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีแผนจะดำเนินการสร้างเพื่อให้มีห้องน้ำทุกท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ให้บริการโดยสารทางน้ำเพิ่มเติม อีก 17 ท่าเรือ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ท่าเรือปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถึง ท่าเรือวัดราชสิงขร กรุงเทพฯ เมื่อก่อสร้างห้องน้ำแล้วเสร็จคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ใช้บริการเดินทางทางน้ำบริเวณท่าเรือโดยสาร และเป็นอีกทางเลือกในการจูงใจให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะคมนาคมเพิ่มขึ้นในการเดินทางทางน้ำ เพื่อลดปัญหาการจราจรทางบกและประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ.