"....ผลการตรวจสอบของ สตง. ระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง จำนวน 6 โครงการ ว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร ลายมือชื่อบุคคล เพื่อรับค่าตอบแทน ทั้งในส่วนของวิทยากร ผู้เข้ารับการอบรม ค่าพาหนะ ค่าอาหาร อาหารว่าง และเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยในส่วนของกลุ่มบุคคลที่ปรากฎชื่อเป็นผู้เข้ารับการอบรมนั้น จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลในเอกสารเบิกจ่ายเงินโครงการ สตง. พบว่า บางรายเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการทางขาเดินไม่ได้ ตาบอด บางรายเสียชีวิตไปแล้วด้วย..."
การเบิกจ่ายเงินในโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ภายใต้การดูแลกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษ ในช่วงปี 2559 และ 2560 กำลังถูกสอบสวนจาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ภายหลังได้รับรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า มีปัญหาส่อไปในทางทุจริต ปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อบุคคลที่เข้ารับการอบรม เพื่อเบิกค่าใช้จ่าย จำนวน 6 โครงการ ทั้งที่ ไม่ได้มีการจัดอบรมหรือจัดกิจกรรมจริง ทำให้ราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 5.69 ล้านบาท
ขณะที่หลักฐานการปลอมเอกสารลายมือชื่อบุคคลเข้ารับการอบรม ที่ สตง.ตรวจสอบพบนั้น มีรายชื่อผู้ป่วยติดเตียง ขาพิการเดินไม่ได้ ตาบอด บางรายเสียชีวิตไปแล้วด้วย
โดยข้อเท็จจริงทั้งหมด ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวใน สตง. ว่า ขณะนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีปัญหาการเบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง ในช่วงปี 2559 และ 2560 หลังจากได้รับรายงานผลการตรวจสอบจาก สตง. ว่า มีปัญหาส่อไปในทางทุจริต ในลักษณะการปลอมแปลงลายมือชื่อบุคคลเข้ารับการอบรม และค่าใช้จ่ายตามเอกสาร จำนวน 6 โครงการ
ทั้งที่ ไม่ได้มีการจัดอบรมหรือจัดกิจกรรมจริง โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้มีการออกหนังสือเชิญเจ้าหน้าที่ สตง. ไปให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงในการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
ขณะที่ผลการตรวจสอบของ สตง. ระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง จำนวน 6 โครงการ ว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร ลายมือชื่อบุคคล เพื่อรับค่าตอบแทน ทั้งในส่วนของวิทยากร ผู้เข้ารับการอบรม ค่าพาหนะ ค่าอาหาร อาหารว่างเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ในส่วนของกลุ่มบุคคลที่ปรากฎชื่อเป็นผู้เข้ารับการอบรม นั้น จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลในเอกสารเบิกจ่ายเงินโครงการ สตง. พบว่า บางรายเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการทางขาเดินไม่ได้ ตาบอด บางรายเสียชีวิตไปแล้วด้วย
จึงทำให้ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเข้าร่วมการฝึกอบรมได้จริง
เบื้องต้น สตง. ยังได้มีการแจ้งหน่วยงานต้นสังกัดให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และดำเนินการทางละเมิดกับผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการจากกรณีนี้ เป็นจำนวนเงินกว่า 5.69 ล้านบาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายหนึ่ง ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2559-2560 ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนของกรมฯ ยังไม่แล้วเสร็จ และต้องขอเวลาดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเพื่อจึงสามารถชี้แจงข้อมูลกับสำนักข่าวอิศราได้
Cr: www.isranews.org