เงินเฟ้อเดือน พ.ค.ยังขยายตัวตามปัจจัยราคาน้ำมัน-อาหารสด ราคาแพงจากพิษโควิด เหตุปิดตลาดสด คาดไตรมาส2 แตะ 2.3 % ส่งผลทั้งปี เงินเฟ้อเฉลี่ย 0.7-1.7%
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนพฤษภาคม 2564 ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคม 2564 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ในอัตราที่ชะลอตัว เนื่องจากการสูงขึ้นของราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิด โดยมีมาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปาของภาครัฐ เป็นปัจจัยทอนที่ชะลอมิให้เงินเฟ้อขยายตัวสูงเกินไป สำหรับสินค้าและบริการอื่นๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพฤษภาคม 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น ร้อยละ 2.44 ชะลอตัวลงจากร้อยละ 3.41 ในเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยสำคัญยังคงเป็นการสูงขึ้นของราคาพลังงาน ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 24.79 ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด อาทิ เนื้อสุกร สัตว์น้ำ (อาหารทะเล) และผลไม้ ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปาของรัฐ และการลดลงของราคาอาหารสดบางชนิด อาทิ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ไข่ไก่ และผักสดเป็นปัจจัยที่ชะลอ ไม่ให้เงินเฟ้อสูงเร็วเกินไป สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับผลผลิตและความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสด และพลังงานออกแล้ว) ขยายตัวร้อยละ 0.49 ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ที่ขยายตัวร้อยละ 0.30 ดัชนีราคาผู้บริโภค เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2564 ลดลงร้อยละ 0.93 และเฉลี่ย 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 0.83
นายวิชานัน กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินเฟ้อที่ขยายตัวในเดือนนี้ นอกจากจะมีปัจจัยด้านราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิด ซึ่งเป็นปัจจัยด้านอุปทานแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอุปสงค์ที่มีสัญญาณแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนให้เกิดการบริโภค อาทิ การปรับตัวสูงขึ้นของการส่งออก ราคาสินค้าเกษตร และรายได้เกษตรกร รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่สนับสนุนให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
ด้านดัชนีอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถจักรยานยนต์ การขยายตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตในหลายสาขาการผลิต สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยดัชนีราคาผู้ผลิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9โดยราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน รวมทั้ง ราคาเหล็ก ยางพารา และคอนกรีต เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยปัจจัยสำคัญยังคงเป็นราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิดที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน ซึ่งเงินเฟ้อเดือนหน้ายังบวกอยู่อาจไม่สูงเท่าเดือนนี้ ขณะที่ไตมาส 2 เฉลี่ย อยู่ที่ 2.3% หลังจากนั้นไตรมาส3-4 จะเริ่มลดลง
ขณะที่สินค้าและบริการอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหวสอดคล้องกับกลไกตลาดในทิศทางปกติ นอกจากนั้น มาตรการของรัฐ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในแต่ละช่วงเวลา
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นแรงกดดันและความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยคาดว่าเงินเฟ้อในปี 2564 จะเคลื่อนไหวระหว่างร้อยละ 0.7 – 1.7 (ค่ากลางอยู่ที่ +1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง