คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมกระบวนตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งกระบวนการผลิตสินค้าที่ใช้นวัตกรรมและแปรรูปข้าวไทย มั่นใจข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นที่ต้องการอันดับ 1 ในตลาดฮ่องกง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสพบปะกับคณะผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญฮ่องกงกว่า 30 ราย ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้ารวมกันมากกว่าร้อยละ 80 ในงานโครงการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) สินค้าข้าวหอมมะลิไทย ผลิตภัณฑ์ข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ณ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2559 โดยได้หารือร่วมกันในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าวไทย-ฮ่องกง และมาตรฐานข้าวฉบับใหม่ของไทยที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและส่งเสริมการส่งออกให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้ากับประเทศคู่แข่งและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ได้ขอฮ่องกงสนับสนุนนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มมากขึ้นโดยในปีการผลิต 2559/2560 ไทยมีปริมาณน้ำฝนมากทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นเพียงพอต่อการส่งออกตามคำสั่งซื้อตลาดต่างประเทศประกอบกับราคาข้าวหอมมะลิไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ ที่สำคัญข้าวไทยมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงมากกว่าข้าวของคู่แข่ง นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดฮ่องกงมีแนวโน้มการบริโภคข้าวของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคุณภาพมากขึ้น จึงขอให้ฮ่องกงนำเข้า ข้าวไทยชนิดอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าวกล้อง เป็นต้น เพื่อรองรับตลาดกลุ่มดังกล่าว
คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเดินทางมาครั้งนี้ ยังได้มีโอกาสเข้ารับฟังกระบวนการตรวจสอบรับรองคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยและกระบวนการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการคัดข้าวในเบื้องต้นของกรมการค้าต่างประเทศ และเยี่ยมศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยผู้นำเข้าฮ่องกงได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเชื่อมั่นในการผลิต คุณภาพและมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตสินค้าที่ใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ข้าว ณ บริษัท โรงเส้นหมี่ชอเฮง จำกัด และบริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงได้รับทราบว่า วันนี้...ข้าวไทยได้ผสาน เข้ากับนวัตกรรมขั้นสูงและงานวิจัยพัฒนาต่างๆ จนนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทย และยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีความหลากหลาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขข้อมูลข้าวในตลาดฮ่องกงเพิ่มเติมว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยแล้วปริมาณ 146,197 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณ 140,886 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.77 โดยไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับ 1 ในฮ่องกงคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 60 ของการนำเข้าทั้งหมด ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่แสดงให้เห็นว่า ฮ่องกงมีความเชื่อมั่นในข้าวไทยเหนือคู่แข่งและให้การสนับสนุนนำเข้าข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีไทยจะสามารถครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดข้าวในฮ่องกงได้เป็นอันดับ 1 อย่างแน่นอน โดยจะมีปริมาณนำเข้า 195,000 ตันเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปี 2558 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้