กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ร่วมกับ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยความร่วมมือของ 17 หน่วยงาน ซึ่งเป็นการบูรณาการและหนุนเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อมและบริการสาธารณะ โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี
นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในสังคมทั้งกลไกระดับชาติและกลไกระดับท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ภายใต้กรอบการดำเนินงานที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ครอบคลุมมิติทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม โดย กอช. จะมีบทบาทในการเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการดำเนินงานในมิติด้านเศรษฐกิจ ที่จะสร้างหลักประกันรายได้ และสร้างกลไกการออมแก่ประชาชน โดยร่วมทำหน้าที่ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ในด้าน “การออมเพื่อการเกษียณ” และ “การออมเรื่องน่ารู้” เพื่อปลูกฝังทัศนคติการออมเพื่อความยั่งยืนให้แก่คนทุกวัย เป็นการเตรียมความพร้อมแก่คนทุกวัยให้ตะหนักถึงความสำคัญของการออมในวันนี้ เพื่อใช้จ่ายในยามชราภาพ ซึ่งหากทุกคนใส่ใจและมีวินัยในการออมแต่เนิ่นๆ และต่อเนื่อง ย่อมจะทำให้ผู้ออมได้รับประโยชน์ในอนาคตเมื่อไม่มีกำลังหารายได้เลี้ยงชีพแล้ว โดยเฉพาะการออมรูปแบบ กอช. ที่ให้ประโยชน์แก่สมาชิกในลักษณะการจ่ายบำนาญขั้นพื้นฐานที่เพียงพอสำหรับการเป็นข้าวสวยในปิ่นโตเถาแรกไปจนตลอดชีวิต ดังสโลแกน “กอช. ออมสบาย ได้บำนาญ” ซึ่งจะเป็นการลดภาวะความเครียดเรื่องขาดรายได้ให้กับผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระทางการคลังในการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาลในระยะยาว