นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ร่วมทำการตรวจค้นตามหมายศาล และจับกุมผู้ต้องหา 2 รายใน จ.นนทบุรี ข้อหา “ร่วมกันประกอบกิจการทวงถามหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต” เชื่อมโยงกับการเปิดแอพพ์เงินกู้เถื่อน 6 แอพพลิเคชั่นทั้งนี้ ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.2564 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้กู้เงินนอกระบบจากแอพพลิเคชั่นที่โฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เบื้องต้นพบมี 6 แอพพ์ ได้แก่ 1.แมวกวัก 2.Tiktak 3.Ubaht 4.Cashdaddy 5.เต่ามงคล และ 6.ถุงเงิน มีจำนวนลูกหนี้รวมกันมากกว่า 7 หมื่นราย
โดยเมื่อเหยื่อตกลงกู้เงิน ต้องส่งข้อมูลส่วนตัวพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้กับทางแอพพ์ดังกล่าว ยอดเงินกู้เริ่มตั้งแต่ 2,500-10,000 บาท โดยจะหักค่าธรรมเนียม 30-42% กำหนดเวลาคืนเงิน 7 วัน เกินวันแรกดอกเบี้ย+ค่าปรับ 12% วันถัดไปวันละ 5% หากไม่ชําระตามที่กําหนด จะถูกเจ้าหน้าที่โทรตามทวงหนี้ หรือโทรหาญาติพี่น้อง/คนรู้จัก เพื่อให้เกิดความอับอาย
ปัจจุบันมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจํานวนมาก บางรายถูกโทรข่มขู่ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน นำไปสู่การรวบรวมหลักฐานและศาลได้ออกหมายจับชาวไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมทั้งขออนุมัติหมายศาลเข้าทําการตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่ จ.นนทบุรี จากการตรวจค้นพบสมุดบัญชี บัตรกดเงิน โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก รวมถึงพบกลุ่มบุคคลซึ่งยอมรับว่าเป็นพนักงานโทรทวงหนี้จํานวน 66 คน
“การบูรณาการทำงานของกระทรวงและหน่วยงานตำรวจในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกํากับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพํานักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และการกระทําความผิดทางเทคโนโลยี” นายชัยวุฒิกล่าว
สำหรับประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิด หรือพบเบาะแสเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นผิดกฎหมาย อย่างเช่น แอปเงินกู้นอกระบบในลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่เพจอาสาจับตาออนไลน์ https://facebook.com/DESMonitor ตลอด 24 ชั่วโมง