นายกสภาการแพทย์แผนไทย เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในประเทศล่าสุดซึ่งสภาการแพทย์แผนไทย ได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชณะนี้ซึ่งถือว่าการแพทย์แผนไทยและยาตำรับไทยถือเป็นภูมิปัญหาของชาติที่เป็นอาวุธสำคัญอย่างหนึ่งที่จะนำมาใช้ได้แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับไม่ได้นำตำรับยาแผนไทยมาใช้อย่างจริงจังซึ่งเป็นการเสียโอกาสในการนำภูมิปัญญาในประเทศมาใช้เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาแต่วันนี้เรากำลังทำได้เพียงวิ่งแก้ปัญหาเท่านั้น
พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีการแพทย์แผนไทยและมีตำรับยาไทยซึ่งบรรจุเป็นยาสามัญประจำบ้านและเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเราไม่ได้บอกว่ายาตารับไทยนั้นสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้แต่เรารักษาอาการที่คล้ายได้ เช่นอาการไอ เป็นไข้ อาการปวด อาการท้องเสีย ซึ่งยาตำรับไทยนั้นแก้ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการเริ่มต้นก่อนที่เชื้อจะลงปอด หรือเมื่อลงปอดก็มีตำรับยาที่สามารถนำมาแก้ได้ ซึ่งสิ่งที่เรามีกลับไม่ได้นำมาใช้กับสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งเราไม่ได้พูดถึงโควิด-19 แต่ นี่คือโรคอุบัติใหม่ ซึ่งยังไม่มีงานวิจัยใดใดในโลกมารับรองผลในการรักษาเช่นกัน
นายกสภาการแพทย์แผนไทย กล่าวต่อว่า ตอนนี้ถือว่าเราเสียโอกาสศเพราะมีผู้คนที่ไม่น่ามาเสียชีวิตเพราะเท่ากับว่าเรากำลังวิ่งตามปัญหาแต่ไม่ได้มีการวางแผนในการป้องกันปัญหา เพราะเราไม่ได้นำเอาภูมิปัญญาของชาติมาใช้อย่างจริงจัง ซึ่งผมเห็นด้วยกับแนวคิดของ พันเอกนายแพทย์คงศักดิ์ ตั้งคณา ซึ่งบอกว่าเราควรมีการดำเนินการด้วยการกินฟ้าทลายโจร 5 วันและกักตัว 14 วันซึ่งอาจจะช่วยในการลดการแพร่ระบาดในตอนนี้ได้ เพราะตอนนี้เรามัวแต่วิ่งตามปัญหาแล้วมันจะแก้ไขทันไหม ซึ่งไอเดียนี้ถือว่าเป็นแนวทางที่ดี เป็นสิ่งใหม่ ซึ่งเราก็สามารถทำควบคู่กับการรับการฉีดวัคซีนไปได้
“แนวคิดนี้ถ้ามันได้ผล มันจะเกิดเรื่องมหัศจรรย์ เกิดนวัตกรรมในประเทศ เพราะยาฟ้าทลายโจร ราคาเม็ดละ 1-2 บาท หากเทียบกับยาฟาวิพิราเวียร์ ของต่างประเทศซึ่งก็ไม่ได้เป็นยาที่ใช้รักษาโรคโควิด-19 โดยตรงเช่นกัน แต่มีราคาสูงกว่าเยอะมาก ทำไมเราไม่ทดลองไม่เริ่มยิ่งผลข้างเคียงของสมุนไพรไทยนั้นไม่ได้มีผลข้างเคียงหรือทำให้เสียชีวิต ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ประกาศชัดว่าให้ใช้สมุนไพรไทยมาแก้ปัญหานี้อย่างชัดเจนแต่ผมถามว่าใครเป็นผู้รับนโยบายมาแล้วทำไมไม่เอามาใช้ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นคงทางยาในประเทศ” นายกสภาการแพทย์แผนไทย กล่าว
“ หลายประเทศมีการใช้ภูมิปัญญาของตัวเอง แม้กระทั่งประเทศจีนก็มีการนำตำรับยาจีนมาใช้ในการรักษาโดยยังมีการส่งออกอีกด้วย ซึ่งแพทย์แผนไทยได้ทำงานแบบปิดทองหลังพระมานานแล้ว อย่างฟ้าทลายโจรก็ต้องมีการผลักดันกันอย่างหนักหน่วงกว่าจะมีการรับรอง และการรักษาด้วยภูมิปัญญามีมานานแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมียาอีกหลายตำรับที่สามารถนำมาใช้ได้แต่ก็ยังไม่ได้มีการพูดถึง วันนี้เราไม่ได้มีการวางระบบสร้างภูมิของเราเองเลย ซึ่งตำรับยาเหล่านี้แม้แต่ในโรงพยาบาลสนามก็ไม่ได้มีการนำไปใช้ แต่ประชาชนล้มตายใครรับผิดชอบเราขอโอกาสในเรื่องนี้เพื่อให้ตำรับยาไทยได้มีการนำมาใช้ได้แล้วส่วนตัวสงสัยว่าระดับผู้ปฏิบัติที่รับนโยบายกำลังคิดอะไรอยู่”