ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกประกาศแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการท่าข้าว โรงสี และชุมนุมสหกรณ์ต่างๆ ที่ทำธุรกิจรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ว่า ขอให้รับซื้อข้าวจากชาวนาอย่างโปร่งใส เป็นธรรม ทั้งการชั่ง วัด ตวง ขอให้มีคุณธรรม
นอกจากนี้ ยังกล่าวคาดโทษว่าหากมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้ประกอบการายใดเอาเปรียบชาวนา หรือฉ้อโกงเครื่อง ชั่ง ตวง วัด จะดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด อีกทั้งจะไม่ต่อใบอนุญาตประกอบการด้วย
หลังจากช่วงที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจชั่ง ตวง วัด กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกสุ่มตรวจเครื่องชั่งของท่าข้าว และสถาบันการเกษตร โรงสีต่างๆ ในจังหวัดพิจิตร ทั้งหมด 11 แห่ง พบว่า มีการแก้ไขดัดแปลงเครื่องชั่ง จำนวน 3 ราย ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบปรับรายละ 2 หมื่นบาท ส่วนนิติบุคคลคือ สถาบันการเกษตร เปรียบเทียบปรับ 2 เท่า เป็น 4 หมื่นบาท และส่งฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาด้วย
ด้าน นายณรงค์ สุขโท้ ประธานสหกรณ์การเกษตร อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในจุดรับซื้อเกือบแทบทุกแห่งปรับตัวสูงขึ้นจากที่เคยรับซื้ออยู่แค่ตันละ 7,000 บาท (ข้าวเกี่ยวสด) เพิ่มเป็นตันละ 8,000-8,500 บาท
เนื่องจากสภาพอากาศเริ่มหนาว ทำให้ข้าวมีความชื้นน้อยลง รวมถึงชาวนาเข้าใจนโยบายของรัฐบาลจึงมีการชะลอการขาย ตากข้าวเก็บใส่ยุ้งฉาง รวมถึงนำข้าวหอมมะลิของตนเองไปแปรรูปตามโรงสีชุมชนทำเป็นข้าวสารบรรจุถุงขายกันเอง จึงทำให้ปริมาณข้าวป้อนเข้าสู่โรงสีน้อยลง จนราคาข้าวในช่วงนี้ขยับสูงขึ้นดังกล่าว