กรมชลประทาน ชี้แจงกรณี ชาวแปดริ้วได้รับความเดือดร้อน หลังกรมชลประทานสร้างประตูระบายน้ำ บริเวณปากคลอง 20 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา แต่ระหว่างการก่อสร้าง มีการนำดินมาขวางคลองไม่ให้น้ำไหลเข้าพื้นที่ก่อสร้าง ทำให้ต้นข้าวที่ชาวนาปลูกข้าวไว้กว่า 5,000 ไร่ กำลังจะยืนต้นตายนั้น
นายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ชี้แจงกรณีนี้ว่า ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้อง เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โดยการเดินท่อ Bypass จากคลอง 17 ให้ทะลุเข้าคลอง 20 แต่ระดับน้ำสองฝั่งต่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งคาดว่าน้ำจะไหลไม่เพียงพอจึงได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม จาก 1 เครื่องเป็น 3 เครื่อง เพื่อสูบน้ำเข้าคลองส่งไปให้ประชาชนได้ใช้น้ำ ขณะเดียวกัน โครงการฯได้นำเรือกำจัดวัชพืชขนาดเล็ก จำนวน 2 ลำ เข้าดำเนินการกำจัดวัชพืชที่กีดขวางในคลอง และเปิดรับน้ำจากแม่น้ำบางปะกงทางปลายคลองเข้ามาช่วยอีกทางสำหรับการแก้ปัญหาระยะถัดไปโครงการฯจะดำเนินการวางท่อผันน้ำขนาด 0.80 ม. เพื่อรับน้ำจากคลอง 17 เข้าคลอง 20 และ ขุดลอกบริเวณกลางคลองที่ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำสามารถไหลได้โดยสะดวกและกระจายเข้าคลอง 20 ได้อย่างทั่วถึงต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบนอยู่ในเกณฑ์น้อย ประกอบกับการรับน้ำเข้าทางฝั่งแม่น้ำบางปะกง มีข้อจำกัดในเรื่องค่าความเค็ม ทำให้รับน้ำได้เป็นบางช่วงเวลาเท่านั้นแต่ทางโครงการฯได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่อย่างเต็มความสามารถซึ่งรวมไปถึงคลองอื่นๆในเขต อ.องครักษ์ จ.นครนายก และ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเช่นกันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด