ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
คต. ขานรับนโยบายจุรินทร์ ดันนวัตกรรมดิจิทัลช่วยผู้ประกอบการ ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีในยุค New Normal
03 ก.ค. 2564
 

 

          กรมการค้าต่างประเทศรับลูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำนวัตกรรมดิจิทัลช่วยลดผลกระทบโควิด ดันส่งออกไทยโตต่อเนื่อง ช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทยกว่า76 ล้านบาทต่อปี ช่วยภาครัฐประหยัดทรัพยากรกระดาษมากกว่า 3.3 ล้านแผ่น


          นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงพาณิชย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กรมฯ เร่งเดินหน้าอำนวยความสะดวกทางการค้าและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยนำรายได้เข้าประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยส่งเสริมการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีตามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ต่าง ๆ กรมฯ จึงได้มีนโยบายผลักดันการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal: ESS) เพื่อลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทย รวมทั้งช่วยยังลดโอกาสในการแพร่เชื้อตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อีกด้วย

          ระบบ ESS เป็นระบบที่ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมฯ พิจารณาอนุมัติคำขอในระบบโดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์แบบคำขอดังกล่าว หลังจากนั้นระบบESS จะนำลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการจากฐานข้อมูลของกรมฯ มาพิมพ์บน C/O โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วขึ้น สามารถลดเวลาในการขอรับ C/Oเหลือเพียง 10 นาที/ ฉบับ จากเดิมที่เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการต้องลงลายมือชื่อและประทับตราแบบสด ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาที/ ฉบับ รวมทั้งช่วยลดโอกาสการถูกตรวจสอบย้อนกลับ (Post Verification) จากศุลกากรปลายทางได้มาก

          นายกีรติกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป กรมฯ จะเริ่มให้บริการออก Form E (อาเซียน-จีน) ด้วยระบบ ESS ซึ่งจะส่งผลให้มี C/O ที่ออกด้วยระบบ ESS รวมทั้งสิ้น 9 ฟอร์ม จาก 12 ฟอร์ม ได้แก่ 1) Form D (อาเซียน) 2) Form JTEPA (ไทย-ญี่ปุ่น) 3) Form AJ (อาเซียน-ญี่ปุ่น) 4) Form FTA (ไทย-ออสเตรเลีย) 5) Form AANZ (อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์) 6) Form AK (อาเซียน-เกาหลี) 7) Form AHK (อาเซียน-ฮ่องกง) 8) Form TC (ไทย-ชิลี) และ 9) Form E (อาเซียน-จีน) รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94.17 ของมูลค่าการออก C/O ทั้งหมด และกรมฯ จะเร่งเจรจากับประเทศปลายทางเพื่อผลักดันการใช้ระบบ ESS ให้ครอบคลุมทุกกรอบความตกลงของไทยภายในปี 2564

          ทั้งนี้ ในปี 2563 กรมฯ ออก C/O ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี จำนวน 9 ฟอร์มดังกล่าว รวม 769,195 ฉบับ ดังนั้น การใช้ระบบ ESS จะช่วยประหยัดเวลาอย่างน้อย 20 นาทีต่อฉบับ กรมฯ จึงประเมินว่าการใช้ระบบจะช่วยลดระยะเวลาไปได้มากกว่า 256,000 ชั่วโมงต่อปี และเป็นการลดต้นทุนเวลาและค่าเสียโอกาสของผู้ประกอบการไทยไปได้อย่างน้อย 76 ล้านบาทต่อปี* รวมทั้งช่วยภาครัฐลดการใช้ทรัพยากรกระดาษในการพิมพ์แบบคำขอได้มากกว่า 3,300,000 แผ่นต่อปี การผลักดันนวัตกรรมดิจิทัลจึงสามารถสร้างแต้มต่อทางการค้าที่สำคัญให้สินค้าไทยผ่านการลดต้นทุนโลจิสติกส์ รวมทั้งช่วยภาครัฐลดการใช้ทรัพยากรกระดาษและงบประมาณเป็นอย่างมาก และเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยพลิกวิกฤตโควิดให้การส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดโลกไม่สะดุด

          ผู้ประกอบการสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4830 และ 0 2547 4838 หรือ เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.thและสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...