‘ศรีสุวรรณ’ ยื่น ป.ป.ช. ไต่สวน ‘ผู้ว่าฯ กฟภ.-พวก’ ปมทำสัญญาเอกชนทั้งที่ถูกบอกเลิกสัญญา ไม่ขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ปัตตานี 2-สายบุรี วงเงิน 125 ล้าน
วันที่ 9 ก.ค. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องกล่าวโทษผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และคณะ ฐานทุจริตต่อหน้าที่ กรณีอาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการเอกชนที่ทำผิดสัญญาหรือทิ้งงานที่ทำไว้กับ กฟภ. โดยไม่ขึ้นแบล็คลิสต์หลังบอกเลิกสัญญา อีกทั้งภายหลังยังจัดทำทีโออาร์โครงการใหม่ตัดเงื่อนไขเดิมทิ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเดิมที่เคยถูก กฟภ.บอกเลิกสัญญา สามารถเข้ามาประมูลงานได้อีกนั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก กฟภ.ได้ทำสัญญาว่าจ้างโครงการจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ช่วงสถานีไฟฟ้าปัตตานี 2-สถานีไฟฟ้าสายบุรี จังหวัดปัตตานี กับบริษัทเอกชนรายหนึ่งวงเงินจ้างตามสัญญา 125,000,000 บาท ตั้งแต่ 16 พ.ย. 2558 มีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 720 วัน แต่บริษัทผู้ประมูลงานได้ไม่สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในเวลาตามที่สัญญากำหนดได้ แต่ กฟภ.ยังขยายสัญญาต่อให้อีกหลายครั้งจนถึงวันที่ 15 พ.ย.2561 ยังดำเนินงานไม่เสร็จ จนในที่สุด กฟภ.จึงได้ออกหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2561
โดยหนังสือบอกเลิกสัญญาระบุไว้ชัดว่าบริษัทไม่สามารถปฏิบัติงานตามสัญญาต่อไปได้ เนื่องจากไม่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ตามแผนงาน เพื่อมิให้เกิดความเสียหาย จึงขอบอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิ์ในการเรียกค่าปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญา รวมถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเลิกสัญญา ทว่าต่อมาไม่นานบริษัทดังกล่าวกลับไปได้งานจาก กฟภ. อีกรอบ ในการจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี บริเวณสามแยกบ้านแกใหญ่-ทางหลวงหมายเลข 2076 (กม.ที่ 19+280 ) จังหวัดสุรินทร์ มูลค่า 137,699,370 บาท และยังมีชื่อในโครงการร่วมทุนและรับงานทำสายส่งระบบอีกหลายจังหวัดในปี พ.ศ. 2562-2563 ที่ผ่านมา
“ทั้ง ๆ ที่ตามหลักการทางกฎหมาย การที่บริษัทฯถูกบอกเลิกสัญญาจ้าง เนื่องจากทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเป็นการกระทำอันมีลักษณะเป็นการทิ้งงาน ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 109 (2) จะไม่สามารถเข้ามาประมูลงานใด ๆ ของภาครัฐได้อีก รวมทั้งงานของ กฟภ.ซึ่งมักจะกำหนดในเงื่อนไขทีโออาร์ว่า ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่เคยถูก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกเลิกสัญญาในโครงการ ก่อสร้าง เนื่องจากทำงานไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาของสัญญา ทว่าบริษัทที่เคยทิ้งงานของ กฟภ.รายดังกล่าวกลับเข้ามาประมูลงานของ กฟภ.จนได้งานอีกนั้น เพราะมีการตัดทิ้งเงื่อนไขข้อดังกล่าวไปเสียโดยไม่มีเหตุผล” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า การกระทำดังกล่าวของ กฟภ.อาจถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ม.109 (2) และม.120 ประกอบ พรป.ป.ป.ช. 2561 โดยชัดแจ้ง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันนี้ต่อไป