นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขบ.) กล่าวว่า จากที่กรมรางได้ออกประกาศเรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบถือปฏิบัติเพิ่มเติม มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป คือ
1. ลดหรือจำกัดรอบการให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พร้อมทั้งกำหนดตารางการเดินรถที่มีความชัดเจน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วกัน เพื่องดการเดินทางของประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยกเว้นแก่บุคคลตามที่ระบุในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ข้อ 4 และข้อ 5
2. การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ให้กำหนดแผนปฏิบัติงานอันคำนึงถึงความปลอดภัยต่อระบบการเดินรถเท่าที่จำเป็น และมีมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัดสูงสุด คือ ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติงานของหน่วยงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทางสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สิ่งพิมพ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณีย์ การขนส่งพัสดุภัณฑ์ สินค้าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า การขนย้ายประชาชนไปยังที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานพร้อมแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
3. จำกัดการบริการระบบรถไฟโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีการบริการเดินรถเท่าที่จำเป็น ระหว่างวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2564
4. บริหารจัดการไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดของผู้โดยสารภายในขบวนรถและภายในสถานี เพื่อให้ปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลได้อย่างเคร่งครัด โดยให้มีการปฏิบัติมาตรการตามความเหมาะสม เช่น การดำเนินมาตรการ Group Release ภายในสถานี และการเพิ่มขบวนรถเสริมหรือเพิ่มความถี่การบริการในช่วงเวลาเร่งด่วน เป็นต้น
5. กำกับดูแล ตรวจติดตาม และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อเข้าและออกจากระบบ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ
6. ให้มีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อฯ เชิงรุกในกลุ่มแรงงานก่อสร้างภายในพื้นที่โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด