ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง ศบค. เพิ่มเติม ประกาศ 13 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลบังคับใช้ เริ่มวันที่ 20 ก.ค. 2564
วันที่ 18 ก.ค. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ใจความสำคัญ ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ เป็นหลายสายพันธุ์ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเสี่ยงที่จะเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข
ทั้งนี้ จึงประกาศข้อกำหนด พร้อมขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็น 13 จังหวัด ที่เพิ่มเติมมาคือ จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมกับอีก 10 จังหวัดก่อนหน้านี้ กรุงเทพมหานคร จ.นครปฐม จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.สงขลา
การลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง ให้ประชำชนในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด เลี่ยง จำกัด หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถาน หรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น
กำหนดพื้นที่ห้ามออกนอกเคหสถานเพิ่มเติม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันนับแต่วันที่ข้อกำหนดฉบับนี้ใช้บังคับ โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่และการกำหนดบุคคลที่ได้รับยกเว้น การห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ผู้ใดฝ่าฝืนข้อนี้ ย่อมมีความผิดและต้องระวางโทษตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548