นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเก็บเงินค่าโทรสายด่วนโควิดจากประชาชนว่า เรื่องนี้ถ้าประชาชนจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็คงต้องเสียเงินค่าโทรสายด่วนโควิดติดต่อเบอร์ต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐกันต่อไปทั้ง 7 หมายเลข คือ 1330, 1323, 1422, 1646, 1668, 1669, 1506 ทั้งๆ ที่เบอร์เหล่านี้เป็นเบอร์ฉุกเฉิน 4 หลักที่ใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ซึ่งควรจะให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะประชาชนคนยากคนจนที่ติดเชื้อก็ลำบากอยู่แล้ว
เมื่อประชาชนออกมาเปิดโปงสายด่วนโควิดของภาครัฐต้องเสียค่าโทร กสทช. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลโอเปอเรเตอร์ค่ายโทรศัพท์ต่างๆ ทั้ง AIS TRUE DTAC และ NT ก็ออกมาอธิบายว่าที่ต้องเสียค่าโทรเพราะต้นสังกัดแต่ละหน่วยงานของภาครัฐที่รับผิดชอบสายด่วนไม่ทำเรื่องขอความอนุเคราะห์ยกเว้นค่าบริการไปยัง กสทช. เอง ทำเฉพาะเรื่องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมอย่างเดียว
คำอธิบายเรื่องนี้ของ กสทช. ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า กสทช. ในฐานะผู้กำกับดูแลที่เรียกว่า เรกูเรเตอร์ ไม่มีจิตสำนึกที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาจากโรคร้ายโควิดสิ่งที่ กสทช. ควรทำคือแนะนำหน่วยงานภาครัฐให้ทำเรื่องขอยกเว้นค่าบริการมาด้วยก็จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่เจอเคราะห์หามยามร้ายจากพิษภัยโควิดได้มาก แต่ กสทช. ก็ไม่ทำ จนประชาชนจับได้ไล่ทัน ไม่พอใจ กสทช. กันอย่างมาก จึงรีบขอความร่วมมือโอเปอเรเตอร์ค่ายโทรศัพท์ต่างๆ ยกเว้นค่าโทรจนกระทั่งมีการยอมยกเว้นค่าโทรสายด่วนโควิด
อย่างไรก็ดีมีประชาชนจำนวนมากที่ต้องเสียค่าโทรไปก่อนหน้านี้จากการทำงานที่ไร้จิตสำนึกของ กสทช. จึงขอเรียกร้องให้ กสทช. ดำเนินการคืนเงินค่าโทรสายด่วนโควิดที่ประชาชนต้องเสียค่าโทรไปก่อนหน้านี้ให้ประชาชนโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน กสทช. ก็ควรพิจารณาดูว่ามีงานอะไรอีกบ้างที่ กสทช. ควรทำเพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชน รักษาผลประโยชน์ของประชาชนในสถานการณ์วิกฤติโควิดที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมต่อประชาชนอย่างมากในขณะนี้ ไม่ควรต้องรอให้ประชาชนออกมาส่งเสียงเรียกร้องหาความถูกต้องชอบธรรมก่อนถึงรีบออกมาดำเนินการ เพราะ กสทช. ย่อมรู้ดีกว่าใครว่าในสถานการณ์เช่นนี้ กสทช. ควรทำอะไรเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤติโควิด