นางสาววรรณสิริ โมรากุล รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้เก็บใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีค่าบริการนำเที่ยวภายในประเทศหรือค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศเพื่อนำมาใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการคำนวณภาษีปี 2558 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
โดยต้องเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2558 ซึ่งสามารถนำมาใช้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ทั้งนี้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีที่ต้องการช่วยกระตุ้นและส่งเสริมสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรม
รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนของประเทศและยังเป็นการช่วยให้สังคมเกิดความรักความอบอุ่นภายในครอบครัวที่มีโอกาสไปเที่ยวและมีกิจกรรมร่วมกัน โดยเป็นสิทธิ์เฉพาะผู้เสียภาษีที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งหากสามีหรือภริยามีเงินได้เพียงฝ่ายเดียวให้ใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเฉพาะสามีหรือภรรยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้
แต่ถ้าสามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีระบุผู้จ่ายเงินเป็นทั้งสามีและภรรยาให้ใช้หลักเกณฑ์คือ ถ้าสามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างแยกกันยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 15,000 บาท หรือถ้าสามีภรรยาแยกยื่นแบบเฉพาะเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งเป็นเงินได้ประเภทเงินเดือนให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีของตนเองได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 15,000 บาท ส่วนกรณีที่สามีและภรรยาตกลงยื่นแบบและเสียภาษีร่วมกันให้หักลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองฝ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 15,000 บาท
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่นำมาใช้เป็นหลักฐานคือใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี ที่ผู้เสียภาษีต้องเรียกขอจากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมโดยเอกสารดังกล่าวต้องระบุชื่อนามสกุลของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิ์หักลดหย่อนจำนวนเงิน และวันเดือนปีในใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีให้ชัดเจน