นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ ด้วยการตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ปัญหาส่วนหน้า โดยมีสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 - 11 เป็นช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-11 จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานส่วนหน้า แล้วรับข้อมูลความต้องการการช่วยเหลือจากประชาชนผ่านผู้นำท้องถิ่น สนับสนุนเครื่องมือและบุคคลากรเข้าช่วยเหลือประชาชนตามที่ได้รับการร้องขอ ซึ่งจะรับผิดชอบในพื้นที่ที่แตกต่างกันไป แล้วประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่นั้นๆสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 ดูแลพื้นที่ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย ตาก กำแพงเพชร และพะเยา เบอร์โทรติดต่อ 054 218 602
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 2 ดูแลพื้นที่สระบุรี เพชรบูรณ์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และอุทัยธานี เบอร์โทรติดต่อ 036 225 241
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 ดูแลพื้นที่อุดรธานี เลย บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย นครพนม และสกลนคร เบอร์โทรติดต่อ 042 290 350
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 ดูแลพื้นที่ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด เบอร์โทรติดต่อ 043 221 714
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 5 ดูแลพื้นที่นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ เบอร์โทรติดต่อ 044 920 256
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 6 ดูแลพื้นที่ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และตราด เบอร์โทรติดต่อ 037 213 638-9
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ดูแลพื้นที่ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เพชรบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรติดต่อ 032 334 989
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 ดูแลพื้นที่สงขลา นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง ตรัง และสตูล เบอร์โทรติดต่อ 074 251 156
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 ดูแลพื้นที่พิษณุโลก แพร่ สุโขทัย พิจิตร น่าน และอุตรดิตถ์ เบอร์โทรติดต่อ 055 313 181
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 ดูแลพื้นที่สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ ระนอง พังงา และภูเก็ต เบอร์โทรติดต่อ 077 272 942
และสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 ดูแลพื้นที่อุบลราชธานี มุกดาหาร อำนาจเจริญ และยโสธร เบอร์โทรติดต่อ 045 311 969
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรน้ำได้ติดตั้งศูนย์ผลิตน้ำสะอาด 51 จุด หรือประมาณ 36 ล้านลิตร พร้อมจุดแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือ 362 จุด หรือประมาณ 40 ล้านลิตร และจุดสูบน้ำช่วยเหลือน้ำแล้งน้ำท่วม 124 จุด หรือประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ 315 เครื่อง รถบรรทุกน้ำและรถบรรทุก 100 คัน รถจักรกลหนัก 10 คัน เรือดูดโคลน 8 ลำ สถานีติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 2,097 สถานี และระบบเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม ครอบคุลมพื้นที่เสี่ยง 4,911 หมู่บ้าน รวมถึง อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำสามารถช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ โดยติดต่อผู้นำท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม