กระทรวงพาณิชย์ ใช้นโยบายประชารัฐดันเศรษฐกิจฐานราก ชวนนักธุรกิจท้องถิ่นจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เผย...ที่ผ่านมาจัดกิจกรรมและส่งเสริมเชื่อมโยงธุรกิจผ่าน MOC Biz Club ไปได้สวย ช่วยพัฒนาสินค้าและดีลธุรกิจขยายพื้นที่ขายสินค้าในห้างดังและโลกออนไลน์ผ่านฉลุย!! สร้างยอดขายไม่ธรรมดา เกิดอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมระเบิดตั้งแต่ฐานรากให้ยืนได้อย่างเข้มแข็ง ก่อนขยับไปโตอย่างเข้มข้นในต่างแดน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบธุรกิจไทยตามนโนบายของรัฐบาลภายใต้แนวคิด “ประชารัฐ” ใช้ความร่วมมือร่วมใจจาก 3 ภาคส่วนอันได้แก่ ภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจไทยในภาพรวมให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ประกอบกับสร้างธุรกิจในระดับท้องถิ่นหรือภูมิภาค (Local Economy) ให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจ พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจจับมือเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันนำไปสู่การสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแรงของประเทศ ทุกธุรกิจสามารถยืนหยัดการทำธุรกิจได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้อง พึงพาปัจจัยอื่นๆ เป็นหลัก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการเพื่อสนับสนุน การดำเนินงาน ข้างต้นภายใต้ชื่อ MOC Biz Club โดยส่งเสริมและเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุมชนและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่อยู่ในท้องถิ่นเดียวกันได้รวมตัวกันเพื่อสร้างเครือข่ายและร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้จัดตั้ง MOC Biz Club ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว
ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสมาชิก MOC Biz Club จะได้รับการพัฒนาธุรกิจแบบครบวงจรจาก 4 ภาคส่วน คือ 1) ภาคการศึกษา ช่วยสร้างความรู้ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการธุรกิจให้เป็นมืออาชีพ 2) ภาคเอกชน ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนช่องทางการตลาดและบริหารจัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความต้องการของตลาด 3) สถาบันการเงิน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริหารสินเชื่อได้อย่างคล่องตัว และ 4) ภาคราชการ อำนวยความสะดวกทั้งด้านกฎระเบียบและส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจให้มีความสะดวก พร้อมเชื่อมโยงการตลาดให้มีช่องทางการขายที่หลากหลายเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ในปีงบประมาณ 2559 ที่ผ่านมา กระทรวงฯ
ได้จัดกิจกรรม สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club จำนวนทั้งสิ้น ๘ ครั้ง แบ่งเป็นส่วนภูมิภาค จำนวน ๖ ครั้ง (ชลบุรี พิษณุโลก เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา สงขลา และขอนแก่น) และส่วนกลาง ๒ ครั้ง มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า ๑,๔๐๐ คน และ พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งกิจกรรมนี้ได้สร้างยอดจำหน่ายสินค้ากว่า ๘ ล้านบาท เกิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) จำนวน ๖๐ คู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า ๒ ล้านบาท โดยผลการจัดงานสะท้อนได้ถึงความสำเร็จของเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เป็นอย่างดี
รมว. พณ. กล่าวต่อว่า นอกจากความสำเร็จของการจัดกิจกรรมข้างต้นแล้ว MOC Biz Club ในแต่ละพื้นที่ก็ประสบผลสำเร็จในการรวมกลุ่มเช่นกัน อาทิ เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดจันทบุรี สามารถ ‘ขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน’ จัดกิจกรรม Business Matching โดยใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เชื่อมต่อกับชายแดนของประเทศกัมพูชาและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่พัฒนาไปสู่เอกลักษณ์ด้านมหานคร แห่งผลไม้ และนครแห่งอัญมณี เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดเพชรบุรี ได้รวมกลุ่มเป็นชุมชนขนมหวาน ส่งเสริมการจัดซื้อวัตถุดิบท้องถิ่น พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม ใช้เทคโนโลยีถนอมอาหาร และสร้างช่องทางการจำหน่าย และเครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดขอนแก่น ที่สร้างกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ช่วยกันพัฒนาคุณภาพมาตรฐานในการผลิตให้อยู่ในระดับสากล
กระทรวงพาณิชย์ไม่เพียงแต่การสนับสนุนการรวมกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ ยังได้ร่วมกับภาคเอกชนช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดให้กับสมาชิก MOC Biz Club เปิดช่องทางการขายในประตูเมืองของประเทศอย่าง สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 69.22 ล้านบาท (ต.ค.58-ส.ค.59) สนามบินภูเก็ต มียอดขาย 4.36 ล้านบาท (ก.ย.-พ.ย.59) และจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นไปยังสนามบินนานาชาติต่างๆ ของไทยด้วย ประกอบกับผลักดันธุรกิจให้เข้าสู่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อาทิ คิงส์เพาเวอร์ เซ็นทรัล สยามพารากอน สยามดิสคัพเวอรี่ และส่งเสริมการใช้ช่องทางออนไลน์ภายใต้การดำเนินงานของหน่วยงานในกระทรวงฯ เป็นเครื่องมือในการจำหน่ายสินค้า ได้แก่ ThaicommerceStore.com (ตลาดภายในประเทศ) Thaitrade.com, Alibaba (ตลาดต่างประเทศ) เป็นต้น รมว.พณ. กล่าวในท้ายที่สุด