พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมีนายไมเคิล ฮีธ (Mr. Michael Heath) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้สนับสนุนวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมิตรแท้และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนานกว่า 188 ปี รวมถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย-สหรัฐฯ ที่ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ร่วมกัน ซึ่งการฉีดวัคซีนถือเป็นประโยชน์สำหรับไทยที่มีความต้องการใช้วัคซีนเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พร้อมขอขอบคุณนางแทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้ผลักดันและสนับสนุนให้ไทยได้รับวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 ล้านโดส โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ดูแลคนไทยและผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ เป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะนำวัคซีนทั้งหมดไปบริหารจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทยต่อไป
นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ทางสหรัฐฯ มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในพิธีส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ในวันนี้และภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับไทยในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อุปทูตสหรัฐฯ ยังยินดีที่ไทยและสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความมั่นคง สาธารณสุขและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เป็นระยะเวลาอันยาวนานที่ไทยและสหรัฐฯ มีความร่วมมือทางด้านสาธารณสุขและการพัฒนาวัคซีนร่วมกันเพื่อป้องกันโรคระบาด การส่งมอบวัคซีนวันนี้นับเป็นการยกระดับความร่วมมือดังกล่าวให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ อุปทูตสหรัฐฯ ยังกล่าวขอบคุณรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ดูแลประชาชนชาวสหรัฐฯ ในไทยเป็นอย่างดีในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมหวังว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของไทยจะคลี่คลาย
วัคซีนดังกล่าวของบริษัทไฟเซอร์ ไบโอเอนเทค (Pfizer-BioNTech) จำนวน 1,503,450 โดส ได้จัดส่งถึงไทยแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564