นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า การประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้าและโครงการชุมชนในพื้นที่ประกาศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นกำลังใจในการเดินหน้าพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าก้าวสู่ปีที่เก้า
สำหรับการดำเนินงานปี 2555-2559 กกพ. ได้จัดสรรงบประมาณลงสู่ชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีโครงการชุมชนรวมประมาณ 30,000 โครงการ ซึ่ง กกพ. มุ่งมั่นในการบริหารและพัฒนากองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตลอดจนดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของสาธารณชนถึงการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยการจัดการประกวดกองทุนดีเด่นในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว และเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงาน ตลอดจน ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ ซึ่งมีกรอบหลักเกณฑ์การประเมินใน 4 ด้าน คือ ด้านประสิทธิผล ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านการบริหารจัดการ และด้านการเรียนรู้และพัฒนา โดยรางวัลชนะเลิศระดับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าดีเด่นประเภท ก และประเภท ข ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศประเภท ก ให้กับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา และรางวัลชนะเลิศดีเด่น ประเภท ข ให้กับกองทุนพัฒนาไฟฟ้า บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) รวมทั้ง มีกองทุนที่ได้รับรางวัลดีเด่นในด้านต่างๆ และรางวัลรองชนะเลิศ ได้รับโล่รางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรวม 6 รางวัล รวมทั้ง มีรางวัลชมเชยระดับกองทุน และโครงการชุมชนดีเด่นใน 4 ภาค ได้รับโล่รางวัลหรือใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัลจาก กกพ. จำนวน 13 รางวัล รวมรางวัลทั้งหมด 21 รางวัล
โดยงานประกาศรางวัลในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมพิธีกว่า 400 คน
“กกพ. มุ่งหวังในการขยายผลให้กองทุนฯ และโครงการชุมชน ที่ได้รับรางวัลครั้งนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีในการส่งเสริมให้ให้กองทุนฯ อื่นๆ นำไปพัฒนากองทุนของตนในพื้นที่และต่อยอดขยายผลโครงการชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ยังเป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแรงจูงใจในการพัฒนางาน สร้างขวัญกำลังใจให้กับ คพรฟ. และผู้ที่เกี่ยวข้องในการมุ่งมัน พัฒนาการดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความยั่งยืน เพื่อประโยชน์ต่อชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ส่งผลในการขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานของไทยควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน” นายวีระพล กล่าว