ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 “ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ” ณ กรมอนามัย ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ ซึ่งเป็นทั้งวิกฤตและโอกาสของการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทย ให้สามารถรองรับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงจำเป็นต้องปรับระบบและวิธีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยอาศัยข้อมูลองค์ความรู้ทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอด และสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้ทันต่อสถานการณ์ ผ่านเวทีประชุมวิชาการระดับชาติ ซึ่งในปี 2564 นี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยกำหนดการประชุมวิชาการภายใต้แนวคิด “ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยี รวมทั้งความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายและกฎหมายด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเพื่อสานสัมพันธ์และสร้างแรงจูงใจ ในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ รวมทั้งเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนสร้างกระแสสังคมให้เกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อประชาชนสุขภาพดีต่อไป
ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม นับเป็นพื้นฐานสำคัญของการส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี จำเป็นต้องมีการยกระดับและพัฒนาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น การจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม จำนวน 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1) องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย 2) องค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย 3) กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNFPA) 4) มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ 5) สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย 6) สมาคมอนามัยแห่งประเทศไทย 7) สมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย และ 8) สมาคมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพไทย โดยการประชุมเน้นรูปแบบ online และมีมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามการประชุมวิชาการผ่านทาง Facebook LIVE กรมอนามัย หรือหากต้องการข้อมูลการประชุมวิชาการเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://academic14th.anamai.moph.go.th/th” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว