ปากเสียงของ
คนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาประเทศ
วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567
หน้าแรก
อปท. นิวส์
เกี่ยวกับอปท. นิวส์
โปรไฟล์ผู้บริหาร
ข่าวสาร
ข่าวเด่น / ไฮไลท์
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์
สังคม / บุคคล
ท้องถิ่นไทย
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
การเมือง / การปกครอง
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ธรรมาภิบาล
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต
เศรษฐกิจชุมชน
เกษตรนำไทย
สื่อสาร - คมนาคม
ท่องเที่ยว
ข่าววงใน!!!
ปฏิทินข่าว
อปท.นิวส์โพล
ข่าวย้อนหลัง
วิดีโอ
ฉบับย้อนหลัง
สมัครสมาชิก
ติดต่อโฆษณา
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
เศรษฐกิจชุมชน
ย้อนกลับ
ทีเอ็มบีธนชาต มุ่งพัฒนาโซลูชันผ่านแนวคิดสร้างพื้นฐานทางการเงินครบ 4 มิติ
17 ส.ค. 2564
ทีเอ็มบีธนชาต มุ่งพัฒนาโซลูชันผ่านแนวคิดสร้างพื้นฐานทางการเงินครบ 4 มิติสำคัญ เพื่อช่วยคนไทยก้าวข้ามโควิด-19 และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต ทีเอ็มบีธนชาต พร้อมเดินหน้ายกระดับการบริการและส่งมอบโซลูชันการเงินที่ตอบโจทย์ของลูกค้าแต่ละคน ตลอดทุกช่วงชีวิต สู่เป้าหมายการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ทั้งวันนี้และอนาคต โดยมุ่งพัฒนาโซลูชันจากพื้นฐานการเงิน 4 มิติสำคัญ ได้แก่ รอบรู้เรื่องกู้ยืม, มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ, ฉลาดออม ฉลาดใช้ และลงทุนเพื่ออนาคต พร้อมส่งต่อแนวคิดและโซลูชันสู่ลูกค้าเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า “หลังการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตเสร็จสมบูรณ์แล้ว ธนาคารพร้อมเดินหน้าสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าและคนไทยทั้งประเทศ ตามเป้าหมายของธนาคาร โดยเฉพาะในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในช่วงที่เปราะบางจากสถานการณ์โควิด-19 คนไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางการเงิน การสร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแรงในระดับบุคคลเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยธนาคารได้มุ่งพัฒนาโซลูชันผ่านแนวคิดพื้นฐานด้านการเงิน 4 มิติสำคัญ คือ 1. รอบรู้เรื่องกู้ยืม 2. มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ 3. ฉลาดออม ฉลาดใช้ และ 4. ลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าหากทุกคนนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้จะช่วยเสริมรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้” พิษโควิด-19 ดันยอดหนี้ครัวเรือนพุ่ง แนะให้รอบรู้เรื่องกู้ยืม ใช้สินเชื่อถูกประเภท ปลดหนี้เร็วขึ้น ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นความเปราะบางทางด้านการเงินของคนไทยได้อย่างชัดเจน โดยหลายคนขาดรายได้ มีความต้องการกู้ยืม เห็นได้จากยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 14.13 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90.5% ต่อจีดีพีของไตรมาส 1 ปี 2564 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ที่มีหนี้สินเดิมอยู่แล้วต้องการเงินไปหมุนเพิ่มเติม หรือผู้ที่ขาดรายได้ก็ต้องการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนหรือธุรกิจ ในขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้เดิมลดลง ซึ่งจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปี 2563 พบว่า คนไทยมีสัดส่วนหนี้ที่เกิดจากการบริโภคและการใช้จ่าย (Consumption Debt) สูงถึง 34% และคนส่วนใหญ่เลือกใช้สินเชื่อบุคคล เห็นได้จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อบุคคลที่ 6.4% ซึ่งมียอดรวมสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท เนื่องจากสะดวกและสมัครง่าย ไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ก็ตาม ในสถานการณ์ที่คนไทยมีภาระผ่อนหนี้สินดอกเบี้ยสูงจากหลาย ๆ แหล่ง ทีเอ็มบีธนชาตแนะนำให้ลูกค้าที่มีสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถ หันมาพิจารณาโซลูชัน ttb debt consolidation หรือสินเชื่อที่ช่วยรวบหนี้ทุกทางเป็นก้อนเดียว เช่น รวบหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดดอกเบี้ยสูง มารวมไว้เป็นหนี้เดียว ผ่านสินเชื่อประเภทบ้านแลกเงินหรือรถแลกเงิน เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระหนี้ที่ต้องชำระในอนาคต กรณีตัวอย่าง ลูกค้ามีสินเชื่อบุคคล 450,000 บาท ผ่อนเดือนละ 12,500 บาทที่ดอกเบี้ย 22.00% ต่อปี และมีหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ผ่อนเดือนละ 10,000 บาทที่ดอกเบี้ย 16.00% ต่อปี เมื่อมารวมหนี้เป็นก้อนเดียว ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี และเลือกผ่อนระยะเวลา 15 ปี ยอดผ่อนจะลดลง เหลือเพียงเดือนละ 5,000 บาท ดอกเบี้ยลดลงเหลือ 6.65% ต่อปี (ดอกเบี้ย 3 ปีแรกเฉลี่ย 6.40% ต่อปี) ซึ่งสามารถนำเงินส่วนต่างถึงเดือนละ 17,500 บาท ไปใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็น ช่วยเสริมสภาพคล่องและลดภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังมีโซลูชัน ttb cash2care สินเชื่อบุคคลที่ให้ดอกเบี้ยถูกลง เมื่อกู้ไปใช้กับเรื่องที่จำเป็น เช่น ค่าเทอมลูก และค่ารักษาพยาบาล เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสภาพคล่องอันเกิดจากภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โควิด–19 เร่งคนไทยตื่นตัว เรื่อง การมีประกัน เพื่อรองรับความเสี่ยง เพิ่มความอุ่นใจ จากตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ปี 2563 พบว่าจากจำนวนประชากรไทย 100 คน มีการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตเพียง 39 ฉบับ แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น และด้วยอัตราค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องของการมีประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทีเอ็มบีธนชาต อยากให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยรองรับความเสี่ยง และอยากให้ทุกคนลองสำรวจความคุ้มครองจากประกันต่าง ๆ ที่ตนเองมีอยู่ ทั้งประกันสุขภาพที่เป็นสวัสดิการของที่ทำงาน ประกันสังคม และประกันอื่น ๆ ที่ท่านทำไว้เองแล้ว ว่าเพียงพอและเหมาะสมหรือไม่ หากท่านเกิดเจ็บป่วยหนักหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะหากประกันที่มีอยู่ไม่เพียงพอดูแลค่ารักษาพยาบาล รวมถึงการที่ท่านต้องพักงานและสูญเสียรายได้ จึงจำเป็นต้องนำเงินออมมาใช้ และอาจมีแนวโน้มต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบทั้งต่อตัวลูกค้าและครอบครัวด้วย หนึ่งในโซลูชันความคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่ทีเอ็มบีธนชาตมอบให้ลูกค้า คือ “ทีทีบี ออลล์ฟรี” (ttb all free) บัญชีที่มอบฟรีค่ารักษาพยาบาลและความคุ้มครองชีวิตจากประกันอุบัติเหตุสูงถึง 20 เท่า ซึ่งเราเชื่อว่านี่คือประกันขั้นพื้นฐานที่คนไทยทุกคนควรมี โดยปัจจุบันมีลูกค้าของธนาคารได้รับความคุ้มครองรวมกว่า 1.5 ล้านราย เงินที่ได้มา ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและเหลือเก็บออม ฉลาดออมฉลาดใช้ สร้างรากฐานการเงินที่ดี ในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ทุกคนควรคำนึงถึงความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่ายหรือหาตัวช่วยทางการเงินที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้จริง ทางทีเอ็มบีธนชาต จึงได้นำแนวคิดเรื่อง “เปลี่ยนทุกการใช้จ่ายให้มีความหมายยิ่งกว่า” มาต่อยอดสิทธิประโยชน์ให้กับบัตรเครดิตทีทีบี ชูจุดเด่นด้านการซื้อสินค้าและบริการสั่งอาหารออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางการใช้จ่ายที่จำเป็นในสถานการณ์โควิด-19 นี้ และได้คะแนนสะสมที่เร็วเพื่อใช้แลกสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ เช่น เมื่อซื้อประกันชีวิตผ่านบัตรเครดิตสามารถแลกคะแนนสะสมเป็นเครดิตเงินคืนเข้าบัญชี และใช้คะแนนสะสมแลกชำระค่าหน่วยลงทุนในกองทุนต่าง ๆ เป็นต้น เมื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นแล้ว ก็ควรเริ่มต้นสร้างวินัยในการออมต่อไป โดยจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าสัดส่วนเงินออมต่อรายได้ของคนไทยในปัจจุบันมีเพียง 12.5% ในขณะเดียวกัน ตัวช่วยสำหรับการเก็บออมก็ไม่ได้สร้างแรงจูงใจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ค่อนข้างต่ำ ในขณะที่บัญชีฝากประจำที่ให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่ามีข้อจำกัดเรื่องของระยะเวลาฝาก ทำให้ไม่ตอบโจทย์ผู้ออมที่ต้องการสภาพคล่องหรือความยืดหยุ่น ซึ่งทีเอ็มบีธนชาตขอแนะนำให้คนไทยใช้จ่ายอย่างมีวินัย ระมัดระวังไม่ให้เกินตัวและเริ่มเก็บออมให้มากขึ้น ผ่านโซลูชันการออม คือ “ทีทีบี โนฟิกซ์” (ttb no fixed) บัญชีเงินฝากไม่ประจำ ที่ให้ดอกสูงเหมือนบัญชีฝากประจำ แต่ถอนได้เหมือนบัญชีออมทรัพย์ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวินัยในการออม วางแผนการเงินเหมือนวางแผนชีวิต เริ่มต้นลงทุนเพื่ออนาคตตั้งแต่วันนี้ ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ทั้งดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่สิ้นปี 2562 จากค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.50% ลงมาอยู่ที่ 0.25% ต่อปี หรือ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีที่โดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่ระดับ 1.30% ลงมาอยู่ที่ระดับดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี จึงควรมองช่องทางการลงทุนอื่น ๆ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นหรือผ่านกองทุนรวม ซึ่งอาจทำให้ตัดสินใจลงทุนผิดพลาดได้ง่าย โดยเฉพาะในสภาวะที่ตลาดการลงทุนมีความผันผวน ทีเอ็มบีธนชาตได้พัฒนา “ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต” (ttb smart port) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกช่วยดูแลและจัดพอร์ตการลงทุนที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนผ่าน 5 กองทุนตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามต้องการได้อย่างสบายใจ และปรับพอร์ตให้โดยอัตโนมัติในทุกครั้งที่มีสภาวะเหตุการณ์สำคัญ ขายคืนได้เงินเร็วไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพคล่อง นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนใน ttb smart port อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน (DCA: Dollar Cost Average) เพื่อช่วยสร้างวินัยในการลงทุนเพื่ออนาคตและกระจายความเสี่ยงจากภาวะผันผวนของตลาดผ่านกองทุนรวมได้อีกด้วย นอกจากการนำเสนอ แนวคิดพื้นฐานด้านการเงิน 4 มิติ พร้อมโซลูชันทางการเงินที่พัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ทีเอ็มบีธนชาตพร้อมส่งมอบแนวทางความรู้และประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น ผ่านผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร (Trusted Advisor) ที่พร้อมให้คำแนะนำด้านการเงินต่าง ๆ เว็บไซต์ ttbbank.com ที่ออกแบบใหม่ เน้นให้ข้อมูลความรู้และโซลูชันด้านการเงินที่เข้าใจง่าย และบริการด้านดิจิทัลแบงกิ้งต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Humanized Digital” เป็นมิตรและรู้ใจ ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคนในแต่ละช่วงชีวิต ซึ่งจะทยอยเปิดตัวและให้บริการในครึ่งหลังของปี 2564 นี้ “ทีเอ็มบีธนชาตเชื่อมั่นว่าการทำงานและนำเสนอโซลูชันทางการเงินภายใต้แนวคิดพื้นฐานการเงินทั้ง 4 มิติ จะช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย ทั้งในวันนี้และอนาคตได้จริง และสามารถช่วยคนไทยก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปด้วยกัน” นายปิติ กล่าวสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BOI ดึงชิ้นส่วนไทยสู่ซัพพล...
07 พ.ย. 2567
ออมสิน ออกมาตรการช่วยเหลือ...
02 พ.ย. 2567
ธอส.ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกปร...
19 ต.ค. 2567
ธนาคารออมสิน เปิดจองสิทธิ์...
27 ต.ค. 2567
อีอีซี ผนึก ทีเส็บ หนุนไมซ...
03 ต.ค. 2567
พช.จัดใหญ่ วันพัฒนาชุมชน ข...
31 ส.ค. 2567
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
ฉบับที่ 440 ปักษ์หลัง
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ดูทั้งหมด
พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) กรรมการบริหารแ...
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...