นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด 40 โครงการได้ทยอยเข้าพื้นที่และทำงานได้ตามปกติแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดที่พัก (แคมป์) แรงงานก่อสร้าง โดยช่วงที่รัฐบาลได้สั่งปิดแคมป์คนงานประมาณ 1 เดือนทำให้ผลงานหายไป 1-2%
หลังจากนี้จะเร่งรัดการก่อสร้าง โดยเปิดให้ทำงานล่วงเวลา (โอที) จากเดิมเริ่มงานเวลา 07.00 น. และเลิกงาน 16.00 น. ขยับเวลาเลิกงานเป็น 19.00-20.00 น. ตามความเหมาะสม และให้สอดคล้องกับช่วงล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม รวมทั้งเพิ่มเครื่องจักร หรือเร่งรัดการทำงานในบางส่วนที่ไม่อยู่ในพื้นที่ เช่น โรงงานหล่อชิ้นส่วนทางยกระดับเตรียมให้พร้อมเพื่อความรวดเร็ว
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนงานก่อสร้างถนนดำเนินการตามปกติ คาดว่าการเร่งรัดทั้งหมดจะทำให้ผลงานเป็นไปตามแผนและเสร็จตามสัญญาเหมือนเดิม ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้รับจ้างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและคำสั่งจังหวัดแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด
โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ยังสามารถบริหารจัดการได้ตามแผน เช่น มอเตอร์เวย์ (M82) ระยะ (เฟส) แรก หรือโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) สายธนบุรี-ปากท่อ ช่วง กม.11+959-21+500 ระยะทางรวม 10.600 กม. วงเงินรวม 10,500 ล้านบาท แบ่งก่อสร้างเป็น 3 ตอน ได้ผลงานรวม 46% จากแผนงาน 49% ช้า 3% ทั้ง 3 ตอน กำลังติดตั้งเสาตอม่อสะพานทางยกระดับรูปตัว Y ติดตั้งโครงเหล็กสำหรับประกอบชิ้นส่วนสะพานทางยกระดับ เริ่มทยอยติดตั้งชิ้นส่วนสะพานทางยกระดับช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียนแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จ ส.ค.65 ตามแผน
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ระยะทาง 96.41 กม. วงเงินลงทุนรวม 55,927 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 38,475 ล้านบาท และค่าเวนคืน 17,452 ล้านบาท แบ่งเป็น 25 สัญญา ปัจจุบันได้ผลงาน 59% จากแผนงาน 55% เร็วกว่าแผน 4% บางช่วงกำลังสร้างเสาตอม่อ บางช่วงปูผิวจราจร รวมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามคลอง และ สะพานข้ามแยกต่างๆ ตลอดจนสร้างระบบรายน้ำ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ตามเป้าหมายปี 67