นายมงคล ไชยภักดี หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯพญาเสือ) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยฯพญาเสือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ทำการสืบสวนขยายผลหลังจากได้ติดตามรถยนต์บรรทุกไม้ประดู่แปรรูปออกมาจากป่าอนุรักษ์ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และรถคันดังกล่าวได้เข้าไปในโกดัง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและสามารถตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 105 แผ่น/เหลี่ยม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นขบวนการค้าไม้ข้ามชาตินั้น
โดยจากการหาข้อมูลของรถยนต์ดังกล่าวที่ใช้ในการขนไม้ พบว่าเจ้าของและผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดฮอด โดยเมื่อมาถึงพบว่าบ้านมีลักษณะเป็นบ้านไม้ ไม่พบเจ้าของบ้านและมีการล็อคประตูด้วยกุญแจไม่สามารถเปิดได้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสอบถามผู้ครอบครองที่ดินซึ่งแจ้งว่าไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวอยู่ไหน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นในการเข้าตรวจสอบโดยมีผู้ใหญ่บ้านรับทราบ จากการตรวจสอบบริเวณรอบบ้านพบมีอาวุธปืน เลื่อยโซ่ยนต์ ไม้เต็งแปรรูป และไม้ประดู่ป่าแปรรูปที่มีลักษณะและขนาดตามที่ได้ตรวจยึดได้
จากการตรวจสอบไม้ทุกแผ่นผ่านการเลื่อยลักษณะใหม่ไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างมาก่อนลักษณะ ถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ บางแผ่นติดเปื้อนดินคล้ายลักษณะไม้ที่ถูกเคลื่อนย้ายมาจากในป่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด โดยจากการตรวจนับเจ้าหน้าที่พบไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวนรวม 123 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 6.225 ลบ.ม. จึงได้ทำการตรวจยึดและแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิด CCTV บริเวณด่านตรวจ สถานีบริการน้ำมัน อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นจุดที่รถขนย้ายไม้เคลื่อนที่ผ่าน เพื่อพิสูจน์ทราบลักษณะและทะเบียนรถที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวนมากกว่า 4 คัน เพื่อเป็นข้อมูลในการขยายผลต่อ