ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึง ภารกิจหลักของไปรษณีย์ไทย ในการให้บริการด้านการขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญในการนำส่งพัสดุ สิ่งของ สินค้าต่างๆ ให้ถึงมือผู้รับครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากศักยภาพด้านการขนส่ง ไปรษณีย์ไทยยังให้ความสำคัญเรื่องของบรรจุภัณฑ์มาโดยตลอด ได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับขนส่งต้นไม้ ผลไม้ตามฤดูกาล หรือปลาสวยงาม เป็นต้น เพื่อรองรับการขนส่งให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสื่อมสภาพของสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน ด้วยราคาคุ้มค่า คุ้มต้นทุน ช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าออนไลน์ได้เติบโตขึ้น
“ครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้จับมือกับหน่วยงานที่แข็งแกร่งในด้านงานวิจัยและการพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และถ่ายทอดเทคโนโลยี อย่าง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับการใช้งาน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดพฤติกรรมการซื้อ ขายสินค้าต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการซื้อแต่ต้องเลี่ยงออกจากบ้าน จึงหันมาใช้บริการสั่งซื้อในช่องทางออนไลน์แทน ส่งผลให้ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เติบโต ผู้ประกอบการ/เจ้าของสินค้ามีความต้องการในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามมา ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของไปรษณีย์ไทย ที่เราไม่เคยมองข้าม จึงเป็นจุดเริ่มต้นหลักที่ทำให้เกิดความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ เรามุ่งมั่นที่จะร่วมกันศึกษา วิจัย พัฒนาบรรจุภัณฑ์และนวัตกรรมที่มีประโยชน์สูงสุดกับผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับการขนส่งสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น ยา เวชภัณฑ์ ที่มีความจำเป็นและมีปริมาณการส่งจำนวนมากขึ้นในขณะนี้ เราตั้งใจออกแบบมาให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้และช่วยให้การขนส่งยานั้นยังคงสภาพดีและมีคุณภาพเท่าเดิม รวมทั้งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่รองรับสินค้าเกษตรต่างๆ เช่น ไม้ดอก หรือไม้ประดับ เป็นต้น เพื่อช่วยคงสภาพสิ่งของในระหว่างการนำส่งให้มีความปลอดภัย รวมทั้งลดต้นทุนของผู้ส่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ เมื่อสิ่งของถึงมือในสภาพดี ไม่เสียหายอีกด้วย”
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา บริการวิเคราะห์ทดสอบ ด้านวิทยาศาสตร์และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่สากล รวมทั้งสร้างนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการเข้าไปแก้ปัญหา รวมทั้งสร้างโอกาสผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง ภายใต้ความร่วมมือทั้งสองหน่วยงานมุ่งพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ขนส่งผ่านช่องทางไปรษณีย์ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรง มีขนาดและคุณภาพได้มาตรฐาน ช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจัดส่งในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานมาตรฐานบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ รองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ชอีกด้วย
“...วว. และ ปณท จะดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ 2 ปี โดยมุ่งผลิตผลงานให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ช่วยเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบไทย ทั้งนี้ วว. โดย ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย เป็นหน่วยงานกลางของชาติด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เพื่อช่วยรักษาคุณภาพสินค้า ลดความสูญเสียของสินค้า ช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ ตลอดจนส่งเสริมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป ยกระดับมาตรฐานการบรรจุภัณฑ์ของประเทศ ที่ผ่านมา วว. ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานเข้มแข็งยิ่งขึ้น อาทิ กล่องขนส่งมะม่วงสำหรับจำหน่ายออนไลน์ขนาดบรรจุกล่องละ 5 กิโลกรัม กล่องเก็บกลิ่นทุเรียนล็อคกลิ่นได้ 100% กล่องบรรจุต้นไม้ ขนาด 20 x 20 x 50 ซม. เป็นต้น ผลงานวิจัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทย พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค NEW NORMAL...”
นอกจากนี้จะมีการใช้ศักยภาพของหน่วยงานในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายหรือขนส่งสินค้านวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ ให้กับผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SMEs ในเครือข่ายของทั้งสองหน่วยงาน ตลอดจนการส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าที่ ปณท และ วว. หรือหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นที่เป็นพันธมิตรของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และอำนวยความสะดวกในการให้บริการ รวมทั้งเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบกิจการ อันจะนำไปสู่การขยายกิจการและเสริมความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจไทยต่อไป