นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA ของไฟเซอร์ ระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย โดยจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมจำนวน 10 ล้านโดส จากที่ได้ลงนามจัดซื้อจำนวน 20 ล้านโดสไปแล้วเมื่อวัน 20 กรกฎาคม 2564 รวมวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดส และจะทยอยจัดส่งในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งวัคซีนดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนกระจายวัคซีนของประเทศ เพื่อให้มีวัคซีนแก่ประชากรในประเทศไทย 100 ล้านโดสภายในปี 2564
นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนความคืบหน้ากรณีรัฐบาลภูฏานแลกวัคซีนกับรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (Astra Zeneca) ที่ผลิตจากประเทศสวีเดน จำนวน 150,000 โดส ได้มาถึงประเทศไทยโดยสายการบินดรุ๊กแอร์ (Druk Air) เมื่อเวลา 12.40 น. ของวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีการนำส่งตัวอย่างวัคซีนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจคุณภาพและความปลอดภัย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ 2-3 วัน เมื่อวัคซีนผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว ทางกรมควบคุมโรคจะนำมาจัดสรรให้กับพื้นที่ต่อไป ส่วนกำหนดการในการส่งคืนวัคซีน ประเทศไทยจะทำการส่งคืนวัคซีนภายในไตรมาส 4 ปี 2564
สำหรับการรับมอบวัคซีนครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของการส่งมอบคืนในอนาคต ตามข้อตกลงไตรภาคีระหว่างรัฐบาลภูฏาน รัฐบาลไทย และบริษัท AstraZeneca จำกัด โดยการมอบวัคซีนในครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนานระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมหวังว่าจะมีความร่วมมือด้านวัคซีนกับทางราชอาณาจักรภูฏาน ต่อไป