ศาลฎีกา ยกคำร้องประกันตัว "สาธิต" อดีตอธิบดีกรมสรรพากร-ลูกน้อง คดีทุจริตคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ชี้ คดีศาลชั้นต้นลงโทษคุกตลอดชีวิต หากปล่อยระหว่างอุทธรณ์กลัวหนี
จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ส.ค.64 ให้จำคุกตลอดชีวิต นายสาธิต รังคสิริ จำเลยที่ 1 อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และนายศุภิจ หรือสิริพงศ์ ริยะการ หรือ ริยะการธีรโชติ จำเลยที่ 2 อดีตข้าราชการสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย จากกรณีกล่าวหากระทำการโดยมิชอบในการพิจารณาคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่บริษัทนิติบุคคลทั้ง 25 แห่งเป็นเหตุให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลังและรัฐได้รับความเสียหายนับพันล้านบาท
และจำเลยทั้งสอง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดและโฉนดที่ดิน เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องการขอประกันตัวจำเลยที่ 1-2 เนื่องจากพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วข้อหามีอัตราโทษสูง แม้จำเลยที่ 1-2 ให้การปฏิเสธ แต่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ประกอบกับจำเลยที่ 1-2 ยังไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1-2 ในระหว่างอุทธรณ์
ต่อมาจำเลยทั้งสอง ได้ยื่นฎีกาคำสั่งขอประกันตัวนั้น ล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.) มีคำสั่งศาลฎีกาเรื่องดังกล่าวออกมา โดยศาลฎีกา พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตนายสาธิต จำเลยที่ 1 อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และนายศุภิจ จำเลยที่ 2 อดีตข้าราชการสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจำเลยอาจจะหลบหนี คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนั้นชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 1-2
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งสองก็ยังคงต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำระหว่างรอการยื่นอุทธรณ์คดี โดยผลการตัดสินคดีดังกล่าวก็ถือว่ายังไม่ถึงที่สุด จำเลยทั้งสองยังยื่นอุทธรณ์คดีได้ตามกฎหมาย ขณะที่การขอประกันตัวจำเลยยังมีสิทธิตามกฎหมายที่จะยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้