นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ถือเป็นกรณีศึกษา สังคมตั้งคำถามว่าปล่อยให้มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน และจะมีแนวทางแก้ไขเรื่องลักษณะแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ
กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา ซึ่งอยู่ในชั้นการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการ และ ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งอยู่ระหว่างการรอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรก เนื่องจากประเทศไทยเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ตั้งแต่ เดือน ต.ค. 2550 ซึ่งต้องมีการจัดทำกฎหมายลักษณะดังกล่าว แต่เวลาผ่านมานานก็ยังไม่สำเร็จ โดยจะพยายามทำกฎหมายทั้ง 2 ฉบับให้สำเร็จให้ได้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สังคมบางส่วนอาจคิดว่า ประมวลกฎหมายอาญาก็ใช้ได้ แต่ตนเองมองเห็นจุดอ่อนที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกระทำ ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องมีกฎหมายเฉพาะ ทำให้สมเหตุสมผลกับการกระทำ อย่างกรณีที่ จ.นครสวรรค์ ถือเป็นกรณีศึกษา เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำกับบุคคลอื่น หากมีการสืบสวน ทำสำนวนแล้ว ถ้าจำเลยเป็นพวกตนเองก็อาจจะทำสำนวนให้อ่อนและฟ้องในมาตราที่มีโทษต่ำกว่าที่ควรเป็น ซึ่งการทรมานหรือทำให้บุคคลสูญหาย มีโทษตั้งแต่จำคุก 5 ปี – ตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท มีอายุความตั้งแต่ 10 - 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา
โดยกรณีอุ้มหายต้องตามหาจนกว่าจะพบตัวหรือรู้ชะตากรรม ซึ่งร่างกฎหมายการป้องกันการทรมานมีการเสนอถึงมือวิปรัฐบาลตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 รัฐบาลชุดนี้มีการเร่งจัดทำกฎหมายหลายฉบับให้ได้ออกมาบังคับใช้สำเร็จ โดยกฎหมายการป้องกันทรมาน เป็นกฎหมายคดีพิเศษ เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาจะไปเป็นประธานกมธ. เองด้วย