คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบปรับมาตรการตามข้อกำหนดเพื่อให้กิจการ/กิจกรรม สามารถเปิดดำเนินการได้โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่มีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
1. ปิดสถานที่ต่อ ตามประกาศเดิมที่ระบุไว้ในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 32, 34, 35 และ 38 โดยให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามความมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 28, 30 และ 32
2. สามารถใช้อาคารของสถานศึกษาได้ โดยผ่านความเห็นชอบของผู้แทน ศธ. อว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
3. ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มเปิดให้บริการได้ ไม่เกิน 20.00 น. โดยร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคาร แต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 75 % ส่วนร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 %
4. สถานเสริมความงาม ร้านตัดผม/ตกแต่งผม เปิดได้
5. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดแผนไทย เปิดได้ผ่านการนัดหมาย เฉพาะนวดเท้า
6. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้จนถึง 20.00 น. ยกเว้นกิจกรรมบางประเภทมีเงื่อนไข ดังนี้
– คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม เปิดได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม ต้องนัดหมายล่วงหน้า และจำกัดเวลาให้บริการไม่เกินรายละ 1 ชั่วโมง
– สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือร้านนวด แผนไทย เปิดได้โดยผ่านการนัดหมายล่วงหน้าและจำกัดเฉพาะนวดเท้า
– กิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่ สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม การจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุม
7. เปิดใช้สนามกีฬา และสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ สามารถใช้ในการเล่น ซ้อม หรือแข่งขันกีฬาได้แบบไม่มีผู้ชม
8. สถานรับเลี้ยงเด็ก (เฉพาะสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
9. สถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
10. ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น.
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ