“วีริศ”เผยสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูล่าสุด (30 สค.64) น้ำลดลงจนเกือบแห้งในบางจุดในเขตประกอบการทั่วไป เว้นซอย 11 ถึง 14 ที่น้ำยังเต็มพื้นที่โดยสูงกว่าหรือไม่เกิน 10 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ ระบุหากฝนไม่ตกในวันนี้คาดว่าน้ำจะลดลงได้มากกว่านี้จนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ หลังมีการระดมทีมเข้าทำการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น ของวันที่ 30 ส.ค.64 ว่า โดยภาพรวมของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ปัจจุบันมีการระบายน้ำอยู่ 2 ทิศทาง คือ บริเวณทิศเหนือจะระบายน้ำลงที่คลองหกส่วน และในทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของเขตประกอบการเสรีจะระบายน้ำลงที่คลองลำสลัด โดยการระบายน้ำของทั้ง 2 คลองนี้จะไหลมารวมกันที่คลองชายทะเล ซึ่งตรงจุดนี้ควบคุมการสูบน้ำโดย กรมชลประทาน ที่สถานีสูบน้ำตำหรุ ซึ่งจากการรายงานช่วงคืนที่ผ่านมาทางนิคมฯ บางปู ได้มีการระดมทีมเพื่อทำการระบายน้ำออกจากพื้นที่นิคมฯ โดยล่าสุด พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตประกอบการทั่วไปน้ำลดลงจนเกือบแห้ง ยกเว้นในบริเวณซอย 11 ถึง 14 ที่ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ที่ระดับความสูงกว่าหรือไม่เกิน 10 เซนติเมตร ในขณะที่ในเขตประกอบการเสรียังคงท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าฝนไม่ตกเลยในวันนี้ (30 ส.ค.64) น้ำก็จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้การสัญจรไปมาสามารถทำได้ และทางนิคมฯก็ยังคงเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
“ปัญหาที่เราพบตอนนี้คือ น้ำที่หลากมาจากถนนพัฒนา 1 เข้าสู่เขตประกอบการเสรีทำให้น้ำลดลงได้ช้า โดยสิ่งที่นิคมฯ ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การเร่งระบายน้ำออกคลองชายทะเลเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามาภายในเขตประกอบการการเสรี โดยเบื้องต้นได้รับความช่วยเหลือจาก อบจ.สมุทรปราการ นำรถสูบน้ำแบบทางไกล เข้ามาในพื้นที่แล้วจำนวน 6 เครื่อง และในวันนี้ กรมทรัพยากรน้ำฯ นำเครื่องสูบน้ำมา 3 เครื่อง และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะนำมา 2 เครื่อง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจภูธรบางปู กรมพลาธิการทหารบก และจิตอาสา ก็ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกภายในนิคมฯ ขณะเดียวกันก็เตรียมเสนอคณะกรรมการ กนอ. (บอร์ด กนอ.) เพื่อหาพิจารณาปรับปรุงแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาระยะยาว”นายวีริศ กล่าว
สำหรับนิคมฯบางปู มีสถานีสูบป้องกันน้ำท่วมจำนวน 12 สถานี กำลังการสูบรวมประมาณ 73,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ จำนวน 10 ชุด กำลังการสูบรวมประมาณ 12,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง รวมความสามารถในการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ประมาณ 85,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง