นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรร กล่าวว่า งานในกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญ เพราะเป็นการรักษาและอำนวยความยุติธรรม ผลสัมฤทธิ์ใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการ ตนจะเดินตามแนวทางที่ได้รับมอบหมาย นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำภารกิจใดเป็นพิเศษ แต่ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานของกระทรวงในปี 2560 สั่งการให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีบทบาทในการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้มากขึ้น และเน้นย้ำงานต่อต้านการทุจริต อะไรที่ รมว.ยุติธรรมคนก่อนหน้านี้ได้ทำไว้และคิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องตนจะเดินตามแนวทางนี้ต่อ โดยตนจะเริ่มทำงานนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายจะมีแนวทางอย่างไร นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ยึดความถูกต้องเป็นหลัก เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการของกฎหมายควรต้องดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่การดำเนินการต้องระมัดระวังในห้วงของเวลา ตนไม่มีวาระซ่อนเร้นทำงานเพื่อช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนยึดหลักกฎหมาย โดยจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำงานตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีแผนดำเนินการอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การที่เคยกำกับดูแล้วสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาก่อนจะทำให้การแก้ไขปัญหาง่ายขึ้นหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า วิธีบริหารจัดการเรื่องนี้ต้องใช้หลายรูปแบบ สิ่งที่เราต้องการคือ การได้ข้อยุติที่เป็นไปตามกฎหมายและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม
เมื่อถามย้ำว่า พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในยุคที่นายสุวพันธุ์ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมหรือไม่ นายสุวพันธุ์ไม่ตอบคำถาม ได้เพียงแต่หัวเราะแล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวไปทันที