การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA พร้อมเดินหน้าสู่ PEA 4.0 ในปี 2560 เน้นพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี แม้อาจทำให้รายได้หดหายไปบ้างแต่ต้องปรับตัวและหาแนวทางแก้ไข
นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า ในปี 2560 จะเดินหน้า PEA 4.0 อย่างเต็มรูปแบบหลังจากที่ได้มาการวางแผนและนำร่องมาระยะหนึ่งด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ทุกอย่างจะสู้กันที่เทคโนโลยี สำหรับแผนงานภายใต้ PEA 4.0 นี้ จะมีด้วยกัน 5 แผนงาน คือ
1.การจ่ายไฟ โดยจะนำนวัตกรรมใหม่อย่างสมาร์ทกริดมาใช้ ซึ่งเป็นการทำงานด้วยอัจฉริยะที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เองตามแบบที่ผู้บริโภคต้องการและสามารถตรวจสอบด้วยว่าจะให้มีการเปิด -ปิดไฟฟ้าตอนไหน
2.การบำรุงรักษา จะมีการวางแผนการบำรุงรักษาให้ครบวงจรทั้งออกแบบ วางแผนให้มารวมไว้ด้วยกันและทันสมัยจากเดิมที่ pea มีระบบการควบคุมดูแลด้วยระบบสการ์ด้าที่ทันสมัยอยู่แล้วแต่ยังต้องมีระบบที่ทันสมัยกว่า
3.การบริการ จะมีทั้งลูกค้าที่อยู่ในศูนย์และนอกศูนย์ดังนั้นการบริการจึงจะต้องดีและเทคโนโลยีจะต้องใหม่ครบครันและทั่วถึง
4.ด้านบุคลากร จะต้องมีการปรับตัวให้ทันยุคสมัยการก้าวไปสู่ 4.0 จะต้องพัฒนาบุคลากรไปพร้อมๆ กับสถานการณ์ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาบุคลากรก็จำเป็นจะต้องศึกษาเรียนรู้ไปกับเทคโนโลยี จึงต้องมันการปรับตัว
5.การพัฒนาสถานีชาร์ต รถไฟฟ้าหรือEV มองว่าในอนาคตรถ EV จะมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายดังนั้น PEA จึงเตรียมพร้อมรองรับความต้องการใช้รถชนิดนี้ โดยจะมีการขยายสถานีชาร์ตรถ EV จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 สถานี จะเพิ่มขึ้นอีก 7 สถานีในปี 2560 คือ สุวรรณภูมิ -พัทยา ,ภาคใต้ที่หัวหิน และเส้นทางภาคเหนือ โดยแต่ละสถานีใช้เงินลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท รวมเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 40 ล้านบาท
"สำหรับการก้าวสู่ PEA 4.0 นี้ต้องยอมรับว่าจะทำให้รายได้ส่วนหนึ่งหายไปจากการที่ประชาชนสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เองและอาจมีการขายไฟให้การไฟฟ้าด้วย โดยเฉพาะการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป จึงอาจทำให้รายได้จากขายไฟฟ้าให้ประชาชนหายไป ดังนั้นการไฟฟ้าก็ต้องปรับเปลี่ยนจากผู้ขายกลายเป็นผู้ซื้อไฟแทน การแก้ไขสถานการณ์นี้การไฟฟ้าอาจเปลี่ยนจากผู้ขายไฟอย่างเดียวเป็นผู้รับติดตั้งภายใต้แบรนด์ของการไฟฟ้าซึ่งเชื่อมั่นว่าชื่อเสียงของการไฟฟ้าจะมีคนมั่นใจหันมาใช้บริการแบรนด์ของการไฟฟ้ามากขึ้น"นายเสริมสกุลกล่าว