กรมการค้าต่างประเทศเดินหน้ายุทธศาสตร์ขยายการค้าชายแดนปี 60 ผลักดันเปิดด่านใหม่ที่มีศักยภาพ เปิดทางสะดวกสินค้าไทยเจาะตลาดเพื่อนบ้าน ส่ง YEN-D สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการตามแนวชายแดน ดันเลยโมเดลช่วยธุรกิจที่ไม่มีพื้นที่ติดชายแดนได้มีโอกาสค้าขายกับเพื่อนบ้าน พร้อมลุยเปิดศูนย์กระจายสินค้าไทย ทั้งตามตะเข็บชายแดนและเข้าไปปักธงถึงเมืองเศรษฐกิจใหม่ในเพื่อนบ้าน
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2560 กรมฯ ได้จัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ในการขยายการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในด้านการขยายการค้าชายแดน มีแผนที่จะผลักดันให้มีการพัฒนาด่านใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นด่านที่มีการค้าขายระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน เช่น ด่านบ้านแหลม ด้านบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี ที่เชื่อมโยงการค้าไทยกับฝั่งกัมพูชาเข้าไปได้ถึงจังหวัดพระตะบองและ จังหวัดไพลิน , ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถเชื่อมเข้าไปยังเมืองมะริด ของเมียนมา และด่านท่าลี่ จังหวัดเลย ที่เชื่อมเข้าไปยังสปป.ลาว
ส่วนด่านเดิมที่มีการเปิดทำการอยู่แล้ว เช่น ด่านแม่สอด จังหวัดตาก มีแผนที่จะสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยตามแนวชายแดนกับผู้ประกอบการของเพื่อนบ้าน เพื่อกระจายสินค้าไทยให้เข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านได้เพิ่มขึ้น โดยจะเจาะเข้าไปถึงเมียวดี และมัณฑะเลย์ ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก จังหวัดเชียงราย จะเจาะเข้าไปยังเชียงตุงและตองยี เป็นต้น
“ที่ผ่านมา กรมฯ ได้มีการสำรวจเส้นทางการค้าใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทย โดยลงพื้นที่ไปดูเส้นทางคมนาคม เข้าไปหารือกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาโอกาสและหาลู่ทางในการขยายตลาดการค้าให้กับสินค้าไทย ซึ่งพบว่าไทยมีโอกาสในการขยายตลาดสินค้าไทยเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านได้อีกมาก”
นางดวงพรกล่าวว่า ในด้านการสร้างเครือข่ายให้กับนักธุรกิจไทย กรมฯ มีแผนจะเดินหน้าโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (YEN-D Program) ซีซั่น 3 จะเริ่มโครงการในไตรมาสแรกของปี 2560 ซึ่งครั้งนี้จะพิเศษกว่าการจัดครั้งที่ผ่านมาๆ มา โดยจะให้ความสำคัญกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ของเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เช่น ตองยี ท่าขี้เหล็ก เชียงตุง ของเมียนมา และจังหวัดพระตะบอง ไพลินศรีโสภณ ของกัมพูชา เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้าชายแดนเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ จะผลักดันใช้ “เลยโมเดล” ในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยในจังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ติดชายแดนให้มีโอกาสในการทำการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2560 กรมฯ จะเข้าไปพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้ประกอบการจากแขวงไชยบุรี ของ สปป.ลาว เพื่อให้ความรู้และสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนจะข้ามไปพบปะเจรจาธุรกิจ ณ แขวงไซยบุรี ด้วย
นางดวงพรกล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้าชายแดน กรมฯ จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า เปลี่ยนถ่ายสินค้า ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยในส่วนกลาง จะสนับสนุนเอกชนไทยจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในปทุมธานี พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแบบ One Stop Service แก่ผู้ส่งออกใช้เป็นช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV ซึ่งจะมีการลงนาม MOU ในช่วงเปิดตัวโครงการ YEN-D ซีซั่น 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560
ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้มีการผลักดันให้ภาคเอกชนเปิดศูนย์กระจายสินค้าไทยในประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่จังหวัดไพลินของกัมพูชา กรมฯ ได้ลงพื้นที่หารือกับภาคเอกชนกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้กระจายสินค้าไทยรายใหญ่ โดยยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าไปกระจายสินค้าไทยในกัมพูชา นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีโสภณ โดยกรมฯ ได้หารือกับเจ้าของพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า และคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี ในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าของพื้นที่ได้ชักชวนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าวด้วย รวมทั้งกรมฯ ยังได้ลงพื้นที่เมืองตองยี เมืองหลวงของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งกรมฯ ได้สนับสนุนภาคเอกชนไทยไปจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยที่ห้าง City Square ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่และแห่งเดียวของรัฐฉาน และขณะนี้ใกล้จะเปิดให้บริการแล้ว
สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนของไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2559 (ม.ค.- พ.ย.) มีมูลค่า 1.33 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.27 เติบโตสวนทางกับการค้าโลกในปัจจุบัน ส่วนมูลค่าการค้าชายแดนในปี 2559 ทั้งปี คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 86.5 ของเป้าหมาย ปี 2559 ที่ตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านล้านบาท มีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 2.8 จากปี 2558 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ