กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดทำ Webinar ร่วมกับ OZON แพลตฟอร์มออนไลน์อันดับ หนึ่งของรัสเซีย เพื่อสอดรับกับนโยบายการผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการค้าออนไลน์ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ในการรุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับโลกการค้าในยุคใหม่นิวนอร์มอล เมื่อวันที่ 14 กันยายน 64 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการไทยสนใจอย่างล้นหลาม เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 บริษัท
นายกิตตินันท์ ยิ่งเจริญ ผู้อํานวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก เผยว่า ”รัสเซียเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 150 ล้านคน และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง แต่อาจจะเข้าถึงยาก เนื่องจากประชากรบางส่วนอาศัยแบบกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในขณะที่ประชากรอีกส่วนหนึ่ง มีการอาศัยอย่างกระจายตัวทั่วประเทศ ดังนั้นการค้าออนไลน์จึงตอบโจทย์ได้ดีในการเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่ อีกทั้ง คนรัสเซียเองมีความนิยมในการมาเที่ยวประเทศไทย และมีความชื่นชอบในสินค้าของไทยอยู่แล้วแต่ในปัจจุบันพบว่ายังมีสินค้าไทยในตลาดออนไลน์รัสเซียค่อนข้างน้อย จึงถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยจะอาศัยช่องทางออนไลน์ในการบุกเจาะรัสเซีย ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางแพลตฟอร์ม OZON.ru ได้เปิดตัว OZON Global ซึ่งรองรับและสามารถตอบโจทย์การค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce) จากประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สินค้าไทยที่มีศักยภาพในการวางจําหน่ายควรมีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นไทย มีราคาไม่สูงมากนัก นอกจากนี้ คุณภาพสินค้า และการขนส่งที่รวดเร็วยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเจาะตลาดรัสเซียเช่นกัน”
Mr. Alexander Putilov ตำแหน่ง Seller Development Manager จากแพลตฟอร์ม OZON Global กล่าวว่า “แพลตฟอร์ม OZON เป็นแพลตฟอร์ม eCommerce อันดับหนึ่งในรัสเซีย ที่มีพื้นที่บริการครอบคลุมตลาดเบลารุส และคาซัคสถานด้วย โดยในปัจจุบันมีสินค้าจําหน่ายกว่า 19 ล้านรายการ และในไตรมาสแรกของปีนี้มีการสั่งซื้อสินค้าถึงกว่า 34 ล้านรายการ โดยในปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เปิดตัว OZON Global เพื่อให้เป็นช่องทางสําหรับชาวรัสเซียในการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมาก โดยมีรายการสินค้าวางจําหน่ายแล้ว กว่า 1.2 ล้านรายการจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการนำสินค้าไทยขึ้นขายบน OZON Global นั้น จะไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมรายปี โดยจะหักเพียง 4-15% (ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า) จากราคาขายสินค้าเมื่อขายได้เท่านั้น โดยทางบริษัทได้จัดเตรียมทีมให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย เพื่อให้การส่งสินค้าเป็นไปอย่างเรียบร้อย และถึงมีผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสินค้าไทยที่น่าจะมีศักยภาพดีในตลาดรัสเซีย ได้แก่ เครื่องแต่งกายและสิ่งทอ สินค้าสุขภาพและความงาม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้พลาสติก ของเล่นเด็ก ของตกแต่งบ้าน อาหารและผลไม้แปรรูป รวมถึงชาและกาแฟ”
นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อํานวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “การค้าปลีกออนไลน์ของโลกในปีที่ผ่านมา คาดว่ามีมูลค่าสูงถึงกว่า 4.28 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 140 ล้านล้านบาท และมีการเติบโตมาอย่างก้าวกระโดด โดยหนึ่งในปัจจัยสนับสนุน คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลให้ประชากรโลกต้องอยู่บ้านและสั่งซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น กรมจึงได้แสวงหาโอกาสในการร่วมมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยบุกตลาดการค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน (Cross Border eCommerce) ซึ่งหลายๆประเทศจะให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีและยกเว้นกฎเกณฑ์การนำเข้าในบางประการ โดยในกรณีของประเทศรัสเซียนั้น หากสินค้ามีมูลค่าไม่เกิน 200 ยูโร และหนักไม่เกิน 31 กิโลกรัม ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรโดยทันที อีกทั้ง โมเดลธุรกิจของ OZON Global นั้น ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งสินค้าตรงจากประเทศไทยเมื่อมีคำสั่งซื้อโดยไม่ต้องมีคลังสินค้าในต่างประเทศรัสเซีย จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการบุกเจาะตลาดรัสเซีย ซึ่งมีตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่ และเป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตขึ้นอีกถึง 34% ภายใน 3 ปีนับจากนี้”
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 ก.ย. 64 DITP มีกำหนดจัด Webinar อีกครั้งร่วมกับแพลตฟอร์ม Cdiscount.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนําของประเทศฝรั่งเศส เพื่อผลักดันสินค้าไทยสู่แดนน้ำหอมและสหภาพยุโรป โดยท่านที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ Cdiscount.com (ปิดรับสมัครวันที่ 22 ก.ย. 64 หรือเมื่อเต็มจำนวน) และสามารถรับชมข้อมูลและรายละเอียดติดต่อแพลตฟอร์ม OZON ได้ที่ Facebook Fanpage : thaitrade.com หรือโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 1169 ต่อ Thai trade.com
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.thaifex-vts.com หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169