กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (20 ก.ย.64) ว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ลำปาง 83 มิลลิเมตร // สุรินทร์ 166 มิลลิเมตร // กาญจนบุรี 52 มิลลิเมตร // กรุงเทพมหานคร 96 มิลลิเมตร // สระแก้ว 117 มิลลิเมตร และนครศรีธรรมราช 92 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยกเว้นภาคเหนือน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 47,497 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 57 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 41,917 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 58 ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 6 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และเขื่อนมูลบน พร้อมต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำชี อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และระดับน้ำในแม่น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นบริเวณ แม่น้ำเลย อ.เมืองเลย จ.เลย , ลำน้ำพอง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น , แม่น้ำมูล อ.พิมาย อ.โนนสะอาด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา , แม่น้ำบางปะกง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ด้านแม่น้ำเจ้าพระยา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา มีแนวโน้มลดลง ส่วนสถานการณ์ ระดับน้ำในแม่น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นและเสียงน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และแม่น้ำป่าสัก อ.เมือง อ.วิเชียรบุรี อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามการแก้ปัญหาในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ อย่างกรมชลประทานได้ให้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนระดับน้ำจะสูงขึ้นจากปัจจุบันเล็กน้อย พร้อมจัดจราจรน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง บริเวณคลองชัยนาท-ป่าสัก คลองชัยนาท-อยุธยา และบริเวณคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง แม่น้ำท่าจีน และเเม่น้ำน้อย ในอัตรารวมกัน 425 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้รับน้ำเข้าแม่น้ำลพบุรีและคลองบางแก้วในอัตราที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยและคลองโผงเผง ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่นอกคันกั้นน้ำในเขต อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา คาดจะช่วยลดระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งได้
ขณะที่ ลุ่มน้ำชี ให้แขวนบานระบายเขื่อนทดน้ำในแม่น้ำชีทั้ง 4 เขื่อน คือ เขื่อนชนบท , เขื่อนมหาสารคาม , เขื่อนวังยาง และเขื่อนร้อยเอ็ด เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำชีตอนกลางแล้วตัดยอดน้ำเข้าไปเก็บกักในแก้มลิงที่อยู่สองฝั่งลำน้ำชี ควบคู่กับการปรับลดการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมจัดจราจรน้ำแม่น้ำชี แม่น้ำพอง และแม่น้ำปาว เพื่อเก็บกักน้ำและลดปริมาณน้ำที่จะไหลไปลงแม่น้ำชี โดยปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่ไหลมาจากตอนบนบริเวณ จ.ชัยภูมิ ได้ไหลมาสะสมในช่วงแม่น้ำชีตอนกลางบริเวณ จ.ขอนแก่น และเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง ที่ประตูระบายน้ำ D9 และ D10 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น เร่งระบายน้ำและป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเทศบาลนครขอนแก่น ภาพรวม สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีตอนกลางและตอนล่างยังอยู่ในสภาวะปกติ ส่วนพื้นที่ตอนบนในจังหวัดชัยภูมิที่มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร คาดจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1 - 2 วัน