นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ส่งจดหมายถึงรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้พิจารณาเลื่อนการบังคับใช้ COVID Free Setting และขยายเวลาเปิดร้านอาหารจนถึง 22.00 น. ระบุว่า
ตามที่สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยมาร่วมประชุมกับทางกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 จนเป็นที่มาของมาตรการผ่อนคลายให้นั่งกินอาหารได้ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ภายใต้การระมัดระวังขั้นสูง Universal Prevention COVID-19 และ ภายใต้การขอความร่วมมือให้ใช้มาตรการ COVID Free Setting สำหรับร้านอาหารที่มีความพร้อม คือ ทั้งสถานประกอบการต้องปฏิบัติ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขและพนักงานทุกคนต้องฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็ม หรือมีการสุ่มตรวจ ATK พนักงานกลุ่มเสี่ยง
ทั้งนี้ ในกรณีของการฉีดวัคซีนนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรร้านอาหารตามที่สมาคมภัตตาคารไทยได้ร้องขอไปจำนวน 2 รอบ คือ รอบแรก 37,000 คนและรอบที่ 2 จำนวน 63,000 คน ซึ่งจำนวน 63,000 คนในรอบที่ 2 อยู่ในขั้นรอฉีดเข็ม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือนตุลาคม โดยเป็นบุคลากรร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ส่วนมาตรการให้ตรวจ ATK ณ ปัจจุบันก็ยังพบว่า มีอุปสรรคในด้านราคาที่ค่อนข้างสูงทำให้ผู้ประกอบการยังไม่พร้อมเพิ่มภาระต้นทุนในส่วนนี้ และการดำเนินการแจกจ่าย ATK ของทางภาครัฐก็ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งสมาคมภัตตาคารไทยได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มว่า ยังมีความไม่พร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting หากจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และ มาตรการตรวจ ATK พนักงานกลุ่มเสี่ยง
ดังนั้นสมาคมภัตตาคารไทยในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม จึงใคร่ขอความกรุณามายังท่านรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กรุณาพิจารณาดำเนินการเลื่อนการบังคับใช้มาตรการ COVID Free Setting ออกไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมเพื่อให้สอดรับกับรอบการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาเพิ่มเติมในการเตรียมจัดหาชุดตรวจ ATK
เนื่องจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ประกอบการจำนวนมากประสบปัญหาทางการเงินเพราะไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติตามมาตรการควบคุมการระบาด และเพิ่งจะกลับมาให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
อีกประการหนึ่ง ใคร่ขอความกรุณาจากท่านรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาเลื่อนเวลาปิดร้านอาหารจากเดิมเวลา 20.00 น. เป็น 22.00 น. เนื่องจากพบว่า การจำหน่ายอาหารในรอบเย็นนั้น ร้านอาหารส่วนใหญ่ ตัวเลขผลประกอบการลดลงเหลือเพียง 5-10% โดยเวลาปิดทำการ 20.00 น. เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง
ประกอบกับช่วงเวลานี้ เป็นฤดูมรสุมทำให้เกิดฝนตกในช่วงเวลาเย็นบ่อยครั้งทำให้การค้าขายบาทวิถี ที่จำหน่ายตอนเย็น ได้รับผลกระทบอย่างหนักเวลาในการขายลดลงเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากจะมีการขยับเวลาปิดร้านเป็น 21.00 น.ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ขอเรียนว่า ช่วงเวลา 1 ชั่วโมงไม่ได้เพิ่มโอกาสทางการขายมากขึ้นแต่อย่างใดเมื่อเทียบกับการขยับเวลาเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง
จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านและคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้กรุณาพิจารณาอีกครั้ง จักเป็นพระคุณยิ่ง