นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ก.ย. 2564 กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอวิดีทัศน์ “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” สอดคล้องกับข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม พัฒนาพื้นที่โดยรอบโครงสร้างพื้นฐาน ให้มีทัศนียภาพที่ร่มรื่น และสวยงาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.), กรมทางหลวงชนบท (ทช.), การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมเจ้าท่า (จท.) รับมอบนโยบายดังกล่าว แปรไปสู่การปฏิบัติ โดยการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ 2 ฝั่งถนน, เขตทางรถไฟ และท่าเรือให้มีความสวยงาม และมีความปลอดภัยในการสัญจร
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ทั้ง 4 หน่วยงานดังกล่าวข้างต้น ได้มีการพัฒนา ปรับปรุงทั่วประเทศ รวม 793 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 1,517 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.การส่งเสริมทัศนียภาพทางถนนของ ทล. เพื่อเพิ่มความสวยงามร่มรื่น 2 ฝั่งทางหลวง ด้วยพันธุ์ไม่ประจำถิ่น สร้างเอกลักษณ์ของเส้นทาง และแลนด์มาร์คใหม่ในการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ รวม 767 โครงการ วงเงิน 779 ล้านบาท ได้แก่
ระยะที่ 1 ใช้งบประมาณบำรุงปกติ ปี 2565 จำนวน 137 โครงการ วงเงินรวม 279 ล้านบาท ระยะเวลา 6 เดือน (พ.ย. 2564-เม.ย. 2565) คือ แผนงานปรับภูมิทัศน์ริม 2 ข้างทาง จำนวน 20 สายทาง วงเงิน 39.99 ล้านบาท เช่น ทางหลวงหมายเลข 117 ตอนพญาแมน-ไร่อ้อย จ.อุตรดิตถ์, ทางหลวงหมายเลข 4267 ตอนห้วยนาง-หนองบัว จ.ตรัง เป็นต้น อีกทั้งมีแผนงาน 1 จังหวัด 1 ถนนสวยงาม จำนวน 77 สายทางทั่วประเทศ วงเงิน 198.90 ล้านบาท เช่น ทางหลวงหมายเลข 12 ตอนบ้านฝาง-ขอนแก่น, บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น และแผนงานเพิ่มศักยภาพจุดบริการประชาชน จำนวน 4 จุด วงเงิน 40 ล้านบาท อาทิ ทางหลวงหมายเลข 2196 จ.เพชรบูรณ์
ระยะที่ 2 ใช้งบประมาณบำรุงปกติ ปี 2566 จำนวน 630 โครงการ วงเงินรวม 500 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการเริ่ม ต.ค. 2565 คือ แผนงานเพิ่มศักยภาพจุดพักรถบรรทุก จำนวน 40 จุด, แผนงานปรับปรุงหมวดทางหลวงทั่วประเทศ จำนวน 584 แห่ง เพื่อเป็นจุดบริการและแวะพักของประชาชนที่ขับรถทางไกล, แผนงานปรับปรุงภูมิทัศน์ทางหลวง จำนวน 4 แห่ง อาทิ ทางหลวงหมายเลข 304 ตอนสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว จ.ปราจีนบุรี และแผนงานยกระดับพื้นที่บริเวณสี่แยก จำนวน 2 จุด อาทิ ทางหลวงหมายเลข 37 ตอนวังโบสถ์-ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
2.การส่งเสริมทัศนียภาพทางถนนของ ทช. เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับพื้นที่ และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีแผนดำเนินการ จำนวน 2 โครงการ ในเส้นทางที่เปิดให้บริการแล้ว โดยไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากใช้งบประมาณของ ทช. คือ โครงการจัดกิจกรรม “สีสันประเทศไทย ณ สะพานภูมิพล” ด้วยการประดับไฟ เพื่อเพิ่มความสง่างามให้กับสะพานของพ่อ ในช่วง พ.ย. 2564-ม.ค. 2565 และโครงการประดับไฟ “สะพานมหาเจษฎาบดินทรทนุสรณ์”
3.การส่งเสริมทัศนียภาพระบบรางของ รฟท. เพื่อให้เส้นทางรถไฟ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยส่งเสริมทัศนียภาพริมทางรถไฟ จำนวน 9 เส้นทาง วงเงินรวม 15 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ระยะที่ 1 ตั้งแต่ พ.ย. 2564-เม.ย. 2565 แบ่งเป็น พัฒนาทางรถไฟเส้นทางท่องเที่ยว จำนวน 7 เส้นทาง ด้วยพันธุ์ไม่สวยงามประจำถิ่น วงเงินรวม 7 ล้านบาท เช่น เส้นทางรถไฟสายเหนือ ช่วงเชียงใหม่-นครลำปาง, เส้นทางรถไฟช่วงสถานีกาญจนบุรี-น้ำตก เป็นต้น อีกทั้งพัฒนาเส้นทางโดยสารสายหลักของประเทศ จำนวน 2 เส้นทาง วงเงิน 8 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน เช่น แนวเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นต้น
4.การส่งเสริททัศนียภาพท่าเรือของ จท. ให้มีความโดดเด่น โดยเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวทางน้ำ และส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย จำนวน 15 โครงการ วงเงินรวม 723 ล้านบาท ได้แก่ ยกระดับท่าเรือในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 157 ล้านบาท เช่น ท่าเรือกรมเจ้าท่า, ท่าเรือสะพานพุทธ, ท่าเรือนนทบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาท่าเรือในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ จำนวน 9 โครงการ วงเงิน 566 ล้านบาท อาทิ ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะสมุย, ท่าเรือเอนกประสงค์ บริเวณอ่าวมะขามป้อม จ.ระยอง