จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1-12 มกราคม 2560 ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากมีระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหาย มีเสาไฟฟ้าล้มชำรุดประมาณกว่า 400 ต้น จากดินสไลด์ ถูกน้ำกัดเซาะ เนื่องจากอยู่ในทิศทางน้ำไหล สายไฟฟ้าขาด กฟภ.ต้องงดจ่ายไฟ ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากการงดจ่ายไฟ จำนวน 264,329 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 ของจำนวนผู้ใช้ไฟในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่ง กฟภ. จ่ายไฟคืนแล้ว จำนวน 261,791 ราย คิดเป็นร้อยละ 99 ของจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ คงเหลือจำนวน 2,538 ราย ที่ กฟภ. จะเร่งดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ตามปกติ
นายถวิล เปลี่ยนศรี ประธานกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ด้วยความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและเดินทางมาเยี่ยมเยียนพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน พร้อมนำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลตำบลนายก อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง จำนวน 200 ชุด และพื้นที่บ้านดอนมะลิ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าข้าม พื้นที่หมู่ 2 ตำบลกรูด และพื้นที่หมู่ 4 ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 500 ชุด และเดินทางไปตรวจสอบระบบจำหน่ายของ กฟภ. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
กฟภ. มีมาตรการในการดำเนินการด้านระบบไฟฟ้าในกรณีน้ำท่วมโดยดูแลระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัย ด้วยการยกมิเตอร์ให้พ้นระดับน้ำ งดจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมสูงที่อาจเกิดอันตรายจากไฟฟ้า จัดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองเคลื่อนที่ให้สถานที่สำคัญ อาทิ โรงพยาบาล ส่วนพื้นที่ที่น้ำลด จัดพนักงาน กฟภ. ร่วมกับจิตอาสาภายนอก ดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน อีกทั้งยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สำหรับในครั้งนี้ กฟภ. ออกเยี่ยมเยียนประชาชนโดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 6,300 ชุด สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องอุปโภค บริโภคในการจัดถุงยังชีพจำนวน 5,968 ชุดและอาหารสำเร็จจำนวน 2,500 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม เป็นเงิน 2,167,200.-บาท นอกจากนี้ยังสนับสนุนรถยนต์ขนย้ายผู้ป่วยและประชาชน รวมถึงหน่วยงานอื่นที่ขอรับการสนับสนุนอีกด้วย