นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดฝนตกหนัก จนทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สร้างความเสียหายต่อลูกค้าประชาชนเป็นวงกว้างจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านที่อยู่อาศัย เส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาด และการประกอบอาชีพ
ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" นอกจากการจัดทำ 7 มาตรการ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าประชาชนด้วย "โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ทางธรรมชาติปี 2564" ภายใต้กรอบวงเงินรวมของโครงการ 100 ล้านบาท ที่เริ่มให้ความช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564
ล่าสุดได้มอบหมายให้คณะผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของธนาคารในสำนักเขตและ สาขาในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลางและภาคใต้ตอนบน เร่งลง พื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและความต้องการของลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม และส่งมอบถุงยังชีพที่บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคสิ่งของที่จำเป็นมูลค่ารวม 840,000 บาท ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่างๆ อาทิ พิษณุโลก สุโขทัย อุทัยธานี กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท ชัยภูมิ นครราชสีมา สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี เป็นต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร
นอกจากนี้ ระหว่างการลงพื้นที่ธนาคารยังได้ให้คำแนะนำลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ารับความช่วยเหลือตามมาตรการใน "โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ทางธรรมชาติปี 2564" ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. กรณีหลักประกัน (ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร) ของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อน ชำระ เดือนที่ 1-4 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี
มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าเดิมของ ธอส.ที่หลักประกันของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัย สามารถขอกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิม หรือกู้ซ่อมแซมอาคาร ที่ได้รับความเสียหาย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 หลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 3.00% ต่อปีนาน 1 ปี
มาตรการที่ 3 ลูกหนี้ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ลูกหนี้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 4 เดือนแรกโดยไม่ต้องชำระเงินงวด
มาตรการที่ 4 ลูกหนี้ NPL ที่ได้รับ ผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี
มาตรการที่ 5 ลูกหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ
มาตรการที่ 6 กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ
และ มาตรการที่ 7 พิจารณา สินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ รวมถึงกรณีน้ำท่วม หรือ ลมพายุ จ่ายตามความเสียหายจริงรวมทุกภัยธรรมชาติ ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี และกรณีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่ 1 พ.ย. 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกินภัยละ 30,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการของ "โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติธรรมชาติปี 2564" ตามมาตรการที่ 1-6 สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 และมาตรการที่ 7 ติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป