ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กรมชลฯ พร้อมรับฝนมือฝนตกหนักภาคใต้อีกระลอก
17 ม.ค. 2560

          กรมชลประทาน ระดมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ รับมือสถานการณ์น้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฝนจะตกหนักอีกระลอก 16-20 ม.ค. 60

          นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นดังนี้ ในช่วงวันที่ 16-18 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 19-20 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล

          พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักระลอกใหม่

          สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันมีจังหวัดที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนนครสรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง โดยที่นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำปากพนัง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 306 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่ท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องมาจากกรมชลประทาน ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การระบายน้ำยังต้องคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร มีเครื่องสูบน้ำที่ส่งเข้าไปช่วยเหลือจำนวนทั้งสิ้น 93 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำอีก 68 เครื่อง และยังมีเรือผลักดันน้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรืออีก 70 เครื่องด้วย นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที เร่งระบายน้ำในพื้นที่บ้านบางไทร ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จำนวน 2 เครื่อง เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้เร็วมากขึ้น หากฝนไม่ตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันพรุ่งนี้       

          ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่อ.พระแสง ได้ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 23 เซนติเมตร      แต่ที่อ.เคียนซา ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 1.27 เมตร แนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำที่อ.เคียนซา จะลดต่ำกว่าตลิ่ง ในวันที่ 19 ม.ค. 60 และที่อ.พุนพิน ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 20 เซนติเมตร (เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายน้ำในแม่น้ำตาปี 10 เครื่อง และได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จากกองทัพเรืออีก 26 ลำ เพื่อให้ระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วที่สุด
          ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ เสริมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมจากของเดิม เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักอีกระลอกในช่วงวันที่    16 – 20 ม.ค. 60 ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนไว้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อไปแล้ว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...