ชาวนาในอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ และหลายอำเภอที่ปลูกข้าวเหนียวเขาวง ซึ่งเป็นสุดยอดข้าวเหนียวหอมนุ่มอร่อยของเมืองน้ำดำกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงสีต่างจังหวัดไม่มารับซื้อ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกนาปีเหลือเพียงกิโลกรัม 7 บาท ขายขาดทุนยับ ตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี แต่ต้นทุนการผลิตสูง ทั้งค่าแรงเก็บเกี่ยว และค่าปุ๋ย เผยฤดูกาลเก็บเกี่ยวนี้มีแนวโน้มลดลงอีกเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท ราคาถูกกว่าบะหมี่สำเร็จรูป วอนรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ
วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ปลูกและผลิตข้าวเหนียวเขาวง ซึ่งเป็นข้าวที่ขึ้นชื่อของ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากมีความหอม นุ่ม เมล็ดโต และปลูกได้เป็นบ้างพื้นที่เท่านั้น ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาราคาข้าวเปลือกเขาวงนาปีที่กำลังตกต่ำ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พ่อค้า แม่ค้าคนกลาง และโรงสีต่างจังหวัดไม่มารับซื้อเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา และมีข้าวนอกพื้นที่มาตีตลาด ส่งผลให้ล่าสุดราคารับซื้อข้าวเปลือกอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท หรือตันละ 7,000 บาท จากปกติหลายปีที่ผ่านมาราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 10-12 บาท หรือตันละ 10,000-12,000 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทำให้เกษตรกรขายข้าวขาดทุนยับ นอกจากนี้เกษตรกรยังระบุว่า ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวเขาวงในฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้ยังมีแนวโน้มลดลงอีกเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท หรือตันละ 5,000 บาท จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
นางเสียงพิณ ระม้ายศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่13 บ้านโนนเจริญ ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวเขาวงนาปีในปีนี้ตกต่ำเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่ตัวเองทำนามาก็ไม่เคยเห็นราคาข้าวนาปีตกต่ำขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นข้าวเหนียวเขาวง ซึ่งเป็นข้าวที่ขึ้นชื่อของ จ.กาฬสินธุ์แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะราคาต่ำสุดในรอบ 20-30 ปี เนื่องจากราคาข้าวเปลือกในแต่ละปีจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 10-12 บาท แต่ในปีนี้กลับมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 7 บาท ยิ่งเป็นข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะทราบว่าพ่อค้าคนกลางรับซื้อเพียงแค่กิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ราคาถูกกว่าบะหมี่สำเร็จรูปอีก ทั้งนี้หลายคนมองว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ข้าวไม่สามารถส่งไปขายได้ตามปกติ เจ้าของโรงสีต่างจังหวัดก็ไม่มารับซื้อเหมือนทุกปี อีกทั้งมีข้าวนอกพื้นที่เข้ามาตีตลาดจึงทำให้ข้าวเขาวงราคาตกต่ำ ซึ่งสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ชาวนาเป็นอย่างยิ่ง
นางเสียงพิณ ยังกล่าวอีกว่า ปกติแล้วช่วงเดือนสิงหาคม-เดือนตุลาคม ชาวนาในพื้นที่อำเภอเขาวงจะเริ่มขายข้าวเปลือกที่เป็นข้าวเก่าปีที่แล้วที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง เพื่อนำมาเป็นทุนในการเก็บเกี่ยว และใช้หนี้สิน แต่ปีนี้ตนกับญาติพี่น้องหลายๆต้องคอตกไปตามๆกัน เนื่องจากราคาข้าวเปลือกที่พ่อค้ารับซื้อนั้นราคาตกต่ำจนตนเองและญาติไม่กล้าขาย เพราะขายไปก็ไม่เพียงพอที่จะมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวและใช้หนี้ จึงได้แต่นั่งจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับ เรื่องราคาข้าวที่ตกต่ำ หวังว่ารัฐบาลและหน่วยงานต่างๆจะเข้ามาช่วยเหลือผลักดันราคาข้าวให้สูงขึ้นกว่านี้ ยิ่งช่วงนี้ในหลายๆพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม แต่ราคาข้าวกลับตกต่ำและสวนทางกับราคาอุปกรณ์การเกษตรและราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นอย่างมาก
ด้าน น.ส. นวลอนงค์ พิมพ์สิน อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายข้าวสาร อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 18ต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเองเริ่มขายข้าวสารมา 5 ปี พึ่งจะมีปีนี้ที่ราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารที่เป็นข้าวเหนียว ข้าวสารที่เป็นข้าวจ้าว และรวมถึงข้าวเปลือกด้วย การจับจ่ายซื้อข้าวก็ลดน้อยถอยลงไป และเท่าที่ทราบจากพี่น้องเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ว่า ราคาข้าวเหนียวเขาวงในปัจจุบันราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้วชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเขาวงจะขายข้าวเปลือกได้ต่ำสุดกิโลกรัมละ10 บาท ไม่เคยขายต่ำกว่านี้ แต่พอปีนี้ราคาข้าวกับดิ่งลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 7 บาท
อย่างไรก็ตามไม่เพียงราคาข้าวเปลือกเหนียวเขาวงเท่านั้นที่ตกต่ำ แต่ราคาข้าวสารก็เช่นกันตกต่ำด้วย ซึ่งปัจจุบันราคาข้าวสารอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท จากเดิมราคากิโลกรัม 30-35 บาท จึงอยากฝากถึงผู้ที่มีอำนาจและผู้ที่เกี่ยงข้องช่วยลงมาให้ความช่วยเหลือชาวนาด้วย