ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย มีมติเสียงข้างมาก “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ไม่ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ปมเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป แล้วไปเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่ไม่มีชื่อเป็นปาร์ตี้ลิสต์
จากกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 60 คน ร่วมกันเข้าชื่อร้องต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง ว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน (ผู้ถูกร้อง) สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่นายไพบูลย์ยังต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปจนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และไม่ได้เป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนปิดรับสมัคร เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) โดยศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีผลการพิจารณาเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2564 ว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง พร้อมกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 20 ต.ค. 2564
กระทั่งเวลา 15.20 น. วันนี้ (ล่าช้ากว่ากำหนดไป 20 นาที) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย เรื่อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายไพบูลย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้อ่านคำวินิจฉัย โดยสรุปคือ “ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากจึงวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5)”
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง แต่มอบหมาย นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้แทน อย่างไรก็ตามในรายละเอียดผลการพิจารณาฉบับเต็มจะรายงานให้ทราบต่อไป.