พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบล (ธรรมยุต)รวมพลังตบเท้ายื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งแล้ว 45 รูป ค้านคำสั่งมส.-พศ.ถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธรรมยุต) และไม่เห็นด้วยตั้งพระครูจากจังหวัดหนองคายข้ามห้วยมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปใหม่ ระบุรับไม่ได้ระบบปกครองที่ไม่เป็นธรรม และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่พุทธศาสนิกชนทำบุญวันออกพรรษาท่ามกลางรอยยิ้มปนเศร้า พร้อมเดินหน้าขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าคุณบัวศรี
จากกรณีมหาเถรสมาคมมีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการและถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป โดยปรากฏทางสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) และญาติธรรมออกเคลื่อนไหวคัดค้านทันที เพราะไม่มีการชี้แจงถึงสาเหตุ และมองว่าการถอดถอนไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งมีการล่ารายชื่อหนึ่งแสนคนถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อขอความเป็นธรรม และยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการศาสนาและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ กระทั่งมีกระแสคัดค้านจากพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์อย่างต่อเนื่องแม้จะมีบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสคัดค้านมติมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่มีคำสั่งถอดถอนพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม อดีตเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งพระครูสุทธิญาณโสภณ หรือพระอาจารย์เล็ก จากเจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคายมาเป็นเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์คนใหม่ของประชาชนและพุทธศาสนิกชน รวมถึงพระสงฆ์(ธรรมยุต)ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์และใกล้เคียงยังคงมีต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะมีการร่วมลงชื่อคัดค้านด้วยลายมือในสมุดและระบบออนไลน์กว่า 300,000 คนแล้ว หลายพื้นที่ยังคงไม่เห็นด้วยและมีกระแสต่อต้านการเข้ามาเป็นเจ้าคณะคนใหม่ โดยมีการขึ้นป้ายคัดค้านคำสั่งดังกล่าว รวมทั้งวัดและสำนักสงฆ์หลายแห่ง ซึ่งทั้งพระและประชาชนมีกระแสไม่ต้อนรับพระอาจารย์เล็กเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสของวัด ก่อนรับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด
ทั้งนี้กระแสการต่อต้านเรื่องดังกล่าวยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะพระสงฆ์สายป่า (ธรรมยุต) จากวัดต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านไปแล้ว และล่าสุดมีรายงานว่า มีพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งแล้ว 7 รูป จากทั้งหมด 13 รูป ปกครองในพื้นที่ 18 อำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย อ.นามน อ.ห้วยเม็ก อ.ยางตลาด อ.ท่าคันโท อ.สมเด็จ อ.กุฉินารายณ์ และอ.ฆ้องชัย นอกจานี้ยังมีพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบลยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งอีก 38 รูป จากตำแหน่งเจ้าคณะตำบล(ธรรมยุต)ทั้งหมด 41 ตำบล ซึ่งเป็นการแสดงพลังไม่เห็นด้วยและคัดค้านคำสั่งถอดถอนเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการตั้งเจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ที่ข้ามห้วยมาจาก จ.หนองคาย
ขณะที่บรรยากาศที่วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ยังคงมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหาร เนื่องในวันออกพรรษากันตามปกติ โดยวันนี้เจ้าคุณบัวศรี ได้ลงปฏิบัติกิจรับบิณฑบาตรและลงหอฉันเหมือนเช่นทุกวัน พร้อมรอยยิ้มที่มีความสดใสผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดถึงดังกล่าว ทำให้ศิษยานุศิษย์ที่มาทำบุญเห็นแล้วต่างก็ยิ้มตามไปด้วยแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ปนความเศร้าและสงสาร เพราะจนถึงปัจจุบันทุกคนก็ยังไม่ทราบถึงเหตุผลของมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ถอดถอน จึงมองว่าเจ้าคุณบัวศรี ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนก็ยังเคารพศรัทธา และพร้อมที่จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมต่อไป
นางละมุล โคตรนนท์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/3 ถ.อนรรฆนาค เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้นมากเล็กน้อยกับเรื่องการปลดเจ้าคุณบัวศรี แต่ลึกๆในใจก็รู้สึกเสียใจ ทำไมถึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ในเมื่อท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพราะอะไรถึงได้มายัดเยียดข้อหาต่างๆ จนตนรับไม่ได้ ส่วนพระครูเล็กที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์องค์ใหม่ ถ้าจะมาก็มาได้แต่โดยส่วนตัวไม่สามารถจะยอมรับได้ ถ้าท่านจะมาจะอยู่วัดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วจะเอาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์องค์เก่าไปไว้ที่ไหน อย่างไรก็ตามตนและพุทธศาสนิกชนยังศรัทธาในองค์หลวงตาเจ้าคุณบัวศรีเช่นเดิม ส่วนพระครูเล็กที่จะมาปกครองคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ทั้งจังหวัดอาจจะทำให้คณะสงฆ์มีความเข้าใจผิดเกิดความแตกแยกได้
ทีมข่าว กาฬสินธุ์