ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
ศกพ.เตรียมใช้แอปเบิร์นเช็ครับมือ PM2.5 ช่วงฤดูหนาว
26 ต.ค. 2564

ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศเตรียมรับมือฝุ่น PM2.5 ใช้แผนเฉพาะกิจ “1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุ” แก้ปัญหา รวมทั้งสนับสนุนให้ท้องถิ่นจัดทำแผนป้องกันไฟป่าและสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ ย้ำใช้แอปพลิเคชั่นเบิร์นเช็คจัดระเบียบการเผา

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขฝุ่น PM2.5 โดยจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2564 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คาดว่าในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม 2564 ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นระยะๆ โดยจะมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง จากนั้นถึงเดือนมกราคม 2565 ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาโดยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ลักษณะอากาศอากาศจะแปรปรวน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ดังนั้นในตอนที่ความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมมีกำลังอ่อนหรือเริ่มถอยกลับ จะส่งผลให้ลมอ่อน สภาพอากาศนิ่ง การกระจายตัวของฝุ่นละอองไม่ดีและมีโอกาสสะสมในพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งอาจส่งผลให้ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 วันที่ 25 ตุลาคม 2564) ว่าสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมากทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 5-27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจากข้อมูลศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ คาดการณ์ว่าตั้งแต่วันนี้ถึงปลายเดือนตุลาคม 2564 สถานการณ์โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากเพดานการลอยตัวอากาศและความเร็วลมมีแนวโน้มสูงขึ้น และจะมีลมตะวันออกเฉียงเหนือช่วยทำให้การระบายในพื้นที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงวันที่ 24-26 ตุลาคม 2564 ในช่วงเวลากลางคืนไปถึงเช้ามืดมีโอกาสเกิดสภาวะอากาศนิ่งและเกิดการสะสมของฝุ่นละอองได้

นายอรรถพล กล่าวว่า ทส. ได้มีการเตรียมความพร้อมการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง โดยได้ยกร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ปี 2565 ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงานที่ต้องเร่งรัดและเน้นย้ำการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหา ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านวิชาการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศ ในการประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุ” ซึ่งจะนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มักพบมีแนวโน้มสูงขึ้นและเกินมาตรฐานเป็นครั้งคราวในช่วงปลายปี ซึ่งสาเหตุหลักมาจากยานพาหนะกว่า 50% โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล

นอกจากมาตรการบังคับใช้กฎหมายแล้ว ศกพ.ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและประชาชนมีส่วนร่วมในการลดมลพิษภายใต้โครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” ซึ่งปีนี้เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ผ่านกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายให้รถยนต์ใช้งานที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป มารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามศูนย์บริการรถยนต์แต่ละยี่ห้อในราคาลดพิเศษ โดยบริษัทรถยนต์เข้าร่วม 11 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) ทั้งนี้ จากการทดสอบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลในห้องปฏิบัติการทดสอบมลพิษจากยานพาหนะ พบว่า การบำรุงรักษาแบบ Preventive Maintenance จะช่วยลดการระบายควันดำลงได้เฉลี่ย 25%

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ศกพ.ยังได้ขอความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำ 2 แห่ง ให้จำหน่ายในช่วงวิกฤต PM2.5 ในราคาปกติ คือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างเดือนธันวาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 โดยได้มีการดำเนินการมาแล้วในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ทั้งนี้จากการทดสอบการใช้น้ำมันดีเซลที่มีคุณลักษณะเทียบเท่า EURO 5 หรือมีกำมะถันไม่เกิน 10 ppm จะสามารถลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ได้ประมาณ 24% เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลที่มีคุณลักษณะเทียบเท่า EURO 4 หรือมีกำมะถันไม่เกิน 50 ppm โดยรถยนต์เก่าจะสามารถเติมน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำได้โดยจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์

"วันที่ 26 ตุลาคมนี้ผมจะไปลงพื้นที่จังหวัดลำพูน เพื่อทดลองใช้แอปเบิร์นเช็คที่ใช้จัดระเบียบการเผา ถึงแม้เกษตรกรไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถลงทะเบียนกับทางพื้นที่ได้ ถ้าประชาชนจะเผาต้องจองการเผาพื้นที่และต้องได้รับการอนุญาตจากอำเภอหรือจังหวัด ถ้าไม่ได้รับอนุญาตหรือพื้นที่ไหนยังมีการเผาก็จะใช้กฎหมายดำเนินคดี
ฉะนั้นไม่ว่าชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่จะเผาก็จะต้องดำเนินการผ่านแอปเบิร์นเช็คและต้องแจ้งชาวบ้านในพื้นที่ล่วงหน้า เพราะไม่อย่างนั้นจะมีปัญหากับคนในพื้นที่ว่าเจ้าหน้าที่เผา แต่โทษชาวบ้านเผาเมื่อเกิดไฟลุกลาม

การเผาพื้นที่เกษตรกรรมจะต้องดูสภาพอากาศว่าเหมาะสมกับการเผาหรือไม่ แต่สุดท้ายจะหลีกเลี่ยงการเผาให้มากที่สุด แต่ไม่ว่าพื้นที่ประเภทไหนถ้าจะเผาต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน"

นอกจากนี้ได้หารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนำวัสดุทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์ตามนโยบายชิงเก็บลดเผาซึ่งจะมีบริษัทเอสซีมารับซื้อวัสดุทางการเกษตรไม่อั้นโดยจะส่งเสริมในพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งรับซื้อ

นายอรรถพลกล่าวว่า ปีนี้จะเสริมบทบาทท้องถิ่นในการกำหนดมาตรการเผชิญเหตุและการจัดการเชื้อเพลิงก่อนถึงฤดูไฟ ทั้งในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า ซึ่งในร่างแผนเฉพาะกิจจะถ่ายโอนภารกิจให้ท้องถิ่นจัดทำแผนเพื่อใช้งบแก้ฝุ่นควันไฟป่าได้เอง ถ้าท้องถิ่นหรือ อบต.เข้มแข็งก็จะแก้ปัญหาได้มากขึ้น

ทั้งนี้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกระจายอำนาจทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเห็นชอบให้ท้องถิ่นตั้งงบฯ และเบิกจ่ายงบแก้ไฟป่าได้ซึ่งมีประมาณ 3,000 อบต.ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ป่า จึงให้ อบต. เทศบาลหรือท้องถิ่นจัดทำแผนและงบประมาณในการแก้ปัญหาไฟป่าได้หรือจัดชุดเฉพาะกิจในการเผชิญเหตุช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดับไฟได้ หรือแม้แต่ในการป้องกัน การกำจัดเชื้อเพลิงก่อนถึงฤดูไฟเพื่อให้ท้องถิ่นได้เข้าไปแก้ปัญาได้มากขึ้น

"ไฟป่าที่เกิดขึ้นจะอยู่ใกล้พี่น้องประชาชนและหน่วยงานที่อยู่ใกล้ประชาชนที่สุดก็คือท้องถิ่น คือ อบต. ถ้าเราเสริมให้ อบต.เข้มแข็งก็จะทำให้แผนงานดูแลไฟป่าดำเนินการได้ดีมากขึ้น

ที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจนซึ่งได้พูดคุยในกรรมการกระจายอำนาจและ สตง.ก็ได้ยืนยันว่า อบต.สามารถตั้งงบแก้ปัญหาไฟป่าได้ หรือเบิกจ่ายได้ ดังนั้นสามารถจัดชุดเผชิญเหตุหรือดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ป่าสงวนที่รับผิดชอบได้ โดยเฉพาะจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นการปิดข้อจำกัดทั้งหมด"

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...