นายมนตรี จันทร์เพ็ญ ธนารักษ์พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอให้ตรวจสอบมูลนิธิศาลหลักเมือง ในฐานะองค์กรภาคเอกชน ใช้พื้นที่ราชพัสดุก่อสร้างศาลหลักเมืองและสิ่งปลูกสร้าง ริมถนนสละชีพ ด้านข้างศาลากลางจังหวัด ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ถึงปัจจุบันสำนักงานธนารักษ์ทวงถามถึงสำนักงานปกครองจังหวัดและทราบว่าหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีการประชุมหารือหลายครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากตัวแทนมูลนิธิศาลหลักเมือง ซึ่งทราบว่ามีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานไม่ยอมดำเนินการตามเงื่อนไข เพื่อเช่าใช้พื้นที่ของทางราชการ
"เดิมศาลหลักเมืองอยู่ในที่ดินราชพัสดุ แปลงเลขทะเบียนที่ ปข. 4 ตำบลประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 31 ไร่1 งาน 77 ตารางวา จากนั้นมีการก่อสร้างศาลหลักเมืองเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2536 ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ 4 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา ประกอบด้วยศาลหลักเมือง อาคารประกอบพิธีและห้องสุขา สำหรับพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเป็นที่ทำการกองร้อยอาสารักษาดินแดน แต่จากการรังวัดพบว่ามูลนิธิศาลหลักเมือง เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่อาคารประกอบพิธี เพื่อให้บริการดอกไม้ ธูปเทียนประทัด วัตถุมงคล เนื้อที่ประมาณ 20 ตารางเมตร แต่พื้นที่หาประโยชน์ภายในอาคาร ไม่ได้นำส่งขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งปลูกสร้างกับธนารักษ์ ดังนั้นมูลนิธิฯจะต้องขอเช่าใช้ที่ราชพัสดุ โดยชำระค่าตอบแทนตามอัตราที่กำหนด แต่ไม่เคยจ่ายค่าเช่า" นายมนตรี กล่าว
นายมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีตัวแทนมูลนิธิศาลหลักเมือง ได้ทำเรื่องขอเช่ากับธนารักษ์พื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564 จากนั้นธนารักษ์ได้ทำหนังสือแจ้งฝ่ายปกครองจังหวัดรับทราบ เนื่องจากสำนักงานที่ตั้งของมูลนิธิศาลหลักเมืองอยู่ที่เดียวกับปกครองจังหวัดที่ศาลากลาง แต่ล่าสุดยังไม่มีเอกสารยืนยันขอเช่าจากปกครองจังหวัด ซึ่งโดยหลักการปกครองจังหวัดไม่มีอำนาจหน้าที่ดูแลศาลหลักเมือง หากจะดำเนินการให้ถูกต้อง ควรส่งมอบศาลหลักเมืองทให้ธนารักษ์เพื่อนำไปมอบให้เทศบาลหรือ อบจ.รับผิดชอบตามภารกิจ หากปกครองจังหวัดยังดำเนินการในลักษณะเดิม ผู้รับผิดชอบและนายทะเบียนมูลนิธิอาจเข้าข่ายละเล่นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้หารือกับทีมทนายความเพี่อยื่นฟ้องนายทะเบียนมูลนิธิในจังหวัด เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัด อธิบดีกรมการปกครอง ต่อศาลตามมาตรา 157 เนื่องจากการทำงานตามอำนาจหน้าที่มีกาประวิงเวลา ขณะที่ศาลหลักเมืองที่มีองค์กรเอกชนก่อสร้างในที่ดินของทางราชการจะต้องจ่ายค่าเช่าตามกฎหมาย สำหรับการสร้างศาลหลักเมืองโดยมูลนิธิเอกชน หากไม่มีเจตนาใดแอบแฝง หากก่อสร้างเสร็จแล้ว ควรมอบให้องค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.)ดูแลเช่นเดียวกับทุกจังหวัด