คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 270 ราย เป็นการติดเชื้อภายในจังหวัด 261 ราย เดินทางมาจากต่างจังหวัด 9 ราย มีผู้ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกแห่งของ จ.เชียงใหม่ จำนวน 3,605 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียว 3,011 ราย, ผู้ป่วยสีเหลือง 519 ราย และผู้ป่วยสีแดง 75 ราย

ทั้งนี้ พบว่าเตียงรองรับผู้ป่วยสีเขียวเหลืออยู่ร้อยละ 22 ส่วนเตียงรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงเหลืออยู่ร้อยละ 13 และ 21 ตามลำดับ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.เชียงใหม่ เร่งเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสีเหลืองและสีแดงที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการเปิดเมืองท่องเที่ยวตามโครงการ "ชาร์มมิ่งเชียงใหม่" ที่จะต้องมีจำนวนเตียงพร้อมใช้งาน ตามเงื่อนไขต่างๆ

นายประจญ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเชื่อมั่นว่า จ.เชียงใหม่ จะมีเตียงเพียงพอและมีความพร้อมรักษาผู้ติดเชื้อทุกรายอย่างแน่นอน ทั้งศูนย์พักในคอยชุมชน หรือ CI รองรับผู้ป่วยสีเขียว ที่จัดตั้งครอบคลุมครบทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ส่วนเตียงสีแดงสำหรับผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลมีเพียงพอเช่นกัน และกำลังประสานจัดตั้งฮอสพิเทลเพิ่มเติมรองรับผู้ป่วยสีเขียวด้วย

นายประจญ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตาพลัส" มีแนวโน้มการแพร่ระบาดมากขึ้นนั้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใดก็ตาม ก็ต้องป้องกันเฝ้าระวังอย่างเต็มที่เหมือนกันหมด โดยสิ่งสำคัญต้องเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนเคร่งครัดการป้องกันส่วนบุคคลให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ แต่หากติดเชื้อแล้วก็ไม่ต้องกังวล เพราะ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด

"ในส่วนของความพร้อมในการเปิดเมืองรับท่องเที่ยวต่างชาติ ตามโครงการชาร์มมิ่งเชียงใหม่ ที่จะเริ่มวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้ว โดยมีพื้นที่นำร่องใน 4 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และอซดอยเต่า ซึ่งในช่วงแรกที่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจาก 46 ประเทศเข้ามานั้น น่าจะยังมีไม่มากนัก เพราะยังไม่มีเที่ยวบินตรง แง่หนึ่งถือเป็นเรื่องดีทำให้มีโอกาสซักซ้อมระบบไปด้วย" นายประจญ กล่าว