นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ 1.จ.ขอนแก่น 2.มหาสารคาม 3.นครราชสีมา 4.นนทบุรี 5.อ่างทอง 6.พระนครศรีอยุธยา 7.สุพรรณบุรี 8.นครปฐม และ 9.กาญจนบุรี รวม 32 สายทาง 59 แห่ง โดยทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง ได้แก่ ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ระดับน้ำสูง 200 ซม., ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน, ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ระดับน้ำสูง 170 ซม., ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ระดับน้ำสูง 200 ซม. และ ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี ระดับน้ำสูง 180 ซม. ผ่านไม่ได้ 21 แห่งดังนี้
1.จ.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม., ทล.12 ขอนแก่น-พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 ซม. 2.มหาสารคาม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอม กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอมยาง) ระดับน้ำสูง 220 ซม. 3. นครราชสีมา (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.202 ดอนตะหนิน-ตลาดไทร ช่วง กม.ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.
4.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 15-20 ซม., ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 15-25 ซม., ทล.307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 80 ซม.
5.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.32 อ่างทอง-ไชโย ช่วง กม.ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 130 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม. 6.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 170 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน
ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 200 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 200 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.3412 บางบาล-ผักไห่ ช่วง กม.ที่ 13+900-20+000 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทช.4047 บริเวณแยกวัดไผ่ล้อมและแยกวัดกอไผ่, ทล.3412 บางบาล-ผักไห่ ช่วง กม.ที่ 17+400-23+900 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทช.3501 ออกแยกป่าโมก
7.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 49+673-49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35-40 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน, ทล. 340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 71+230-71+620 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 45 ซม., ทล.3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี กม.ที่ 0+450-0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 35 ซม.
และ 8.นครปฐม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.338 พุทธมณฑลสาย 4-นครชัยศรี ช่วง กม.ที่ 24+800 -25+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน ทั้งนี้ให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบางพื้นที่มีปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เอ่อล้นท่วมผิวจราจร
พร้อมให้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตลอด 24 ชม. ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สอบถามสภาพเส้นทางได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)