กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์บาล์มตะไคร้ ให้ผู้แทนชุมชนจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุพรรณบุรี นำไปใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้าในช่วงสถานการณ์อุทกภัย และส่งมอบต้นฟ้าทะลายโจร เพื่อป้องกันโควิด-19 โดยมี ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธี ณ อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กรุงเทพมหานคร
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว. ดำเนินโครงการ อว.พารอด มากว่า 2 – 3 เดือนแล้ว มาวันนี้ที่ประชาชนในหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม อว. ก็พร้อมพารอดด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เรามี อย่างในวันนี้มีคนไทยที่เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากความชื้นเยอะที่สุด การที่ อว.นำเทคโนโลยี ความรู้ที่มีอยู่แล้วมาผลิต “บาล์มตะไคร้” ทำให้เห็นว่า อว. เก่งและเร็วมาก ๆ เพราะใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้นในการผลิต เพื่อนำมามอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุพรรณบุรี ใช้ในการรักษาโรคน้ำกัดเท้า ซึ่งจะช่วยลดความยากลำบากในการใช้ชีวิตในช่วงประสบภัยนี้ได้มาก
ศาสตราจารย์ (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นประจำทุก ๆ ปี กินระยะยาวนานหลายเดือน ประชาชนต้องประสบกับโรคน้ำกัดเท้า ที่ผ่านมา วว. โดยศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาเป็นเวลากว่า 40 ปี จากงานวิจัยการใช้ประโยชน์จากพืชหอม ได้สกัดน้ำมันหอมระเหยหลายชนิดนำมาทดสอบฤทธิ์ในการต้านเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรียและเชื้อราต่าง ๆ พบว่า น้ำมันตะไคร้ที่มีองค์ประกอบสำคัญ คือ สารซิทรัล (Citral) มีคุณสมบัติสามารถต้านเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังได้ เหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในการรักษาเชื้อราบนผิวหนัง และได้ทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำมันตะไคร้ นำไปทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราพบว่าได้ผลดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด วว. จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์บาล์มตะไคร้จากสารสกัดน้ำมันตะไคร้เพื่อรักษาโรคน้ำกัดเท้า ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราอื่น ๆ เช่น กลาก เกลื้อนได้อีกด้วย โดย วว. ได้รับการสนับสนุนทุนในการผลิต จาก วช. ให้ดำเนินการผลิตบาล์มตะไคร้จากสารสกัดน้ำมันตะไคร้ จำนวน 3,000 ขวด เพื่อมอบให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย นับว่าเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภายใต้ กระทรวง อว. ที่ร่วมมือกันขยายประโยชน์งานวิจัยให้สามารถใช้ได้จริง
ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. มีภารกิจสำคัญในการการบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมแก่นักวิจัย หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ในประเด็นสำคัญของประเทศ มุ่งเน้นการสร้างผลงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์และแก้ไขปัญหาได้จริงอย่างทันท่วงที ทั้งเชิงวิชาการ เชิงเศรษฐกิจ เชิงสังคมและชุมชน และเชิงนโยบาย เพื่อใช้เป็นกลไกในการพัฒนาและแก้ปัญหาเร่งด่วนสำคัญของประเทศ ในครั้งนี้ ประเทศไทยต้องประสบกับสถานการณ์น้ำท่วม และยังคงมีจังหวัดที่น้ำท่วมขังสูง ยาวนานหลายสัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ต้องเดินลุยน้ำและแช่น้ำเป็นเวลานาน จนเริ่มมีอาการของ “โรคน้ำกัดเท้า” การป้องกันโรคน้ำกัดเท้าโดยรักษาความสะอาดและทำให้เท้ามีความชื้นน้อยที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ วช. เล็งเห็นว่า สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)